Skip to main content

การโหนศพคนเสียชีวิตจากโควิด 19 ของสมบัติ ทองย้อย

ขอจัดชุดใหญ่ให้ สมบัติ ทองย้อย สักหน่อยนะครับ ไม่ได้รู้จักกัน แต่ผมไม่เคยชอบขี้หน้าคนๆ นี้เลยแม้แต่น้อย แต่จะไม่อคติ จะว่ากันตามเหตุผลและตรรกะที่มันถูกต้อง ว่ากันแบบแฟร์ๆ เลยนะครับ

การโหนศพคนเสียชีวิตจากโควิด 19 

ของสมบัติ ทองย้อย

ผมไม่โอเคมากๆ เมื่ออ่านโพสต์นี้ของ สมบัติ ทองย้อย เพราะมันเป็นการแสดงออกถึง "กระบวนการทางความคิด" หรือ "ตรรกะที่ป่วย" ของคนอย่าง สมบัติ ทองย้อย เป็นอย่างมาก เหมือนเอาศพคนตายเพราะโควิด และ ความเศร้าโศกเสียใจของญาติพี่น้องเค้ามาเล่นการเมือง มันทุเรศมากครับ ถ้าคุณคำนึงถึงจิตใจของคนที่มีญาติสูญเสียเพราะโควิดไปจริงๆ คุณต้องไม่หยิบเอาการสูญเสียของเขามาเล่นการเมืองแบบต่ำตมเยี่ยงนี้ ไม่มีใครอยากให้ใครตายเพราะโควิดหรอกครับ

ผมเองไม่ได้สนับสนุน "นายกที่ชื่อประยุทธ์" แต่ก็ไม่ได้เกลียด เฉยๆ ซะมากกว่า และไม่ได้สนับสนุน "รัฐบาล" เพราะเห็นชัดๆ อยู่แล้วว่า การบริหารจัดการช่วงที่โควิดระบาด มันไม่ดีจริงๆ แต่ผมก็ไม่เห็นด้วยกับการมาไล่นายกและรัฐบาลชุดนี้ด้วยวิธีนี้เช่นกัน ตามหลักการ "เปลี่ยนม้ากลางศึก" อันไหนที่เค้าทำไม่ดี แทนที่จะไล่ ก็เสนอทางแก้ให้เขาสิ มันถึงจะถูก ต้องติเพื่อก่อ ไม่ใช่ด่าเพื่อความสะใจ ตอนนี้ทุกอย่างกำลังจะดีขึ้นจากการแก้ปัญหาโควิดที่ใช้เวลาและความพยายามอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลและบุคลากรทางการแพทย์ แล้วจะไปไล่เขาทำไม ถ้าไม่พอใจ เกลียดนัก ก็รออีกนิด เดี๋ยวก็เลือกตั้งใหม่แล้ว อย่าใช้วิธีโกงข้อสอบ ทำตัวเหมือนพวกขี้แพ้ชวนตี ผมว่าไม่แมนเลย

ผมไม่ได้ชอบ และก็ไม่ได้เกลียดรัฐบาลชุดนี้ เอาจริงๆ มันก็ดีกว่ารัฐบาลก่อนๆ เยอะอยู่นะ มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นกับชีวิตของประชาชนหลายอย่าง แต่ช่วงโควิดมันก็เป็นเรื่องที่น่าโมโหเหมือนกันในช่วงแรกที่เกิดการระบาด (เพราะเราวิตกกังวลมากๆ ว่าจะติดเชื้อ กลัวด้วย) แต่พอมีเวลาให้เราได้คิด ได้พิจารณาตามข้อเท็จจริง เราก็จะเริ่มเห็นความจริงที่เป็นกลางและถูกต้องตามเหตุและผลของมัน คืออะไร มาดูกันครับ

1. ในจำนวนยอดคนตายจากโควิดทั้งหมด เกิดจากความผิดพลาดของรัฐบาลอย่างนั้นหรือ?
ไม่เลยครับ เราไม่สามารถพูดได้ทั้งหมดเลยว่า คนที่เสียชีวิตจากโควิด เป็นความบกพร่องของรัฐบาล 100% หากต้องการให้เป็นแบบนั้น เราต้องมาดูที่ต้นตอของแต่ละคนเลยว่าคนเหล่านั้น ติดเชื้อโควิดมาจากอะไร เราก็จะเข้าใจทันที

เค้าติดเชื้อเพราะการบริหารจัดการของรัฐบาลอย่างนั้นหรือ?
เค้าติดเชื้อเพราะติดจากคนในครอบครัว แม้ตัวเค้าเองจะอยู่บ้านเฉยๆ แต่มีคนที่ออกไปทำงาน แล้วกลับมา เอาเชื้อมาแพร่ แบบนี้คือ ความผิดของรัฐบาลอย่างนั้นหรือ?
ใครเอาเชื้อมาแพร่ให้คนในครอบครัว?
คนที่ไปเอาเชื้อมา มีพฤติกรรมเสี่ยงใช่หรือไม่?
โควิดมันติดกันได้อย่างไร เข้าใจกันหรือเปล่า?

ฉีดวัคซีนแล้ว ทำไมยังติดเชื้อ? คุณเข้าใจหรือเปล่าว่า วัคซีน ไม่ได้กันติด แต่กันตาย เค้าก็ย้ำกันมาตลอด ขนาดฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ประจำปี หมอยังบอกทุกครั้งเลยว่า นี่ไม่ได้ป้องกัน หรือ เป็นโล่คุ้มกัน ให้คุณไม่ติดไข้หวัดใหญ่นะ แต่การได้รับวัคซีน จะช่วยทำให้มีอาการเจ็บป่วยจากไข้หวัดใหญ่น้อยลง คือ ติดเชื้อได้ แต่จะมีอาการเล็กน้อย หรือ ไม่มีอาการป่วยเลย มันก็หลักการเดียวกัน แต่ในม็อบ ผมก็ยังเห็นมีพวกที่ฉีดวัคซีนแล้ว ไปร่วมม็อบแล้วถอดหน้ากาก นั่งกินอาหารใกล้ๆ กัน ไม่สวมหน้ากาก ก็มีให้เห็นเต็มไปหมด ถ้าติดเชื้อกันขึ้นมา รัฐบาลผิด? นายกผิด? อย่างนั้นหรือ?

ทุกคนต้องดูแลและรับผิดชอบตัวเอง รัฐบาลไม่สามารถมากำหนดอะไรในชีวิตของประชาชนแต่ละคนและบังคับให้ทำหรือไม่ทำอะไรได้หรอก นอกจากไม่ให้เที่ยวกลางคืน แค่นั้นเอง เพราะนี่คือ รัฐบาลประชาธิปไตยยังไงล่ะ ไม่ใช่รัฐบาลคอมมิวนิสต์ที่จะสั่งคุณได้ทุกอย่างแบบเผด็จการ ให้อั้นขี้อั้นเยี่ยว ก็ยังสั่งได้ แต่นี่เป็นประชาธิปไตย 1000% อยากทำไรก็ทำ อิสระ เสรีภาพมีมากจนล้น พอติดเชื้อ เอาไปแพร่ให้คนที่บ้าน ก็มาด่ารัฐบาลว่า ติดเชื้อเพราะขาดวัคซีน? ผมกับภรรยา ออกไปทำงานทุกวัน ภรรยาทำงานออฟฟิศ มีสลับ WFH บ้าง ก็ยังไม่เคยติดเชื้อโควิดเลยสักครั้ง ผมกับภรรยาเป็นยอดมนุษย์หรือยังไง? ไม่หรอกครับ เราก็แค่ต้องดูแลตัวเองให้ดีที่สุด มันก็ปลอดภัยแล้ว คนแก่คนเฒ่าที่บ้าน ก็จะปลอดภัยไปด้วย

2 คนที่ไม่ได้ติดโควิด ต้องได้รับการชื่นชม ไม่ใช่มาต่อว่าเขา
แทนที่จะชื่นชมคนที่เค้าดูแลตัวเองดี ไม่ติดโควิด กลับมาให้ร้าย พูดเหมือนกับว่า คนที่ไม่ติดโควิด มันเลว มันไร้หัวใจ ก็เค้าดูแลตัวเองและครอบครัวดีมากๆ มีความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัวและสังคมรอบตัว มันผิดตรงไหน? ตรรกะบิดเบี้ยว ผิดเพี้ยนไปกันใหญ่แล้ว สมบัติ ทองย้อย

เอะอะอะไร ก็เรียกร้องให้รัฐบาลดูแลไปหมดทุกเรื่อง แต่ปากก็เรียกหาประชาธิปไตย มันย้อนแย้งไปมั้ย? ไอ้สวัสดิการ หรือ ทุกสิ่งที่อยากได้ อยากให้รัฐดูแลตั้งแต่เส้นผมยันปลายนิ้วเท้า มันทำได้แน่นอนครับ ถ้าเป็นรัฐบาลคอมมิวนิสต์ คุณเอามั้ยล่ะ? ไม่เอาล่ะสิ แต่พอเป็นประชาธิปไตย ใช้เสียงข้างมากของประชาชน ใช้ความเห็นหมู่มากของคนในสังคมเป็นเครื่องชี้วัด ก็คุณดูสิครับ คนส่วนใหญ่เค้ายังไม่ติดเชื้อ เค้ายังใช้ชีวิตอยู่กันได้ แล้วเค้าผิดอะไร เราต้องดูแลตัวเองสิ ไม่ใช่เข้าส้วม กระดาษชำระหมด ก็ด่ารัฐบาล มันเกี่ยวกันมั้ย? จะติดเชื้อโควิดหรือไม่ติด มันก็ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลนะ มันเป็นเรื่องความเสี่ยงจากพฤติกรรมส่วนตัวของแต่ละคนล้วนๆ เลย

3. คนที่เห็นด้วยกับแนวความคิดแบบนี้ หรือ แม้แต่ สมบัติ ทองย้อย เองก็ตาม ที่เข้าใจเพราะมีญาติ หรือ โคตรเหง้าตายจากโควิดรอบนี้ด้วย ใช่หรือไม่?

ในเมื่อคุณพูดเองว่า คนที่ยังสนับสนุนรัฐบาลชุดนี้ แสดงว่า ญาติไม่ป่วย ไม่ตายจากโควิด งั้นก็แปลว่า ที่ สมบัติ ทองย้อย ไม่สนับสนุนรัฐบาลชุดนี้ เพราะเข้าใจดี เนื่องจาก มีญาติพี่น้อง หรือ บุคคลอันเป็นที่รัก ป่วยและตายจากโควิด ถูกต้องหรือไม่? ถ้าใช่..ผมก็ขอแสดงความเสียใจเอาไว้ ณ ที่นี้ด้วย ขอให้ไปสู่สุคตินะครับ สำหรับญาติๆ และพี่น้องของกลุ่มสามนิ้วและแนวร่วมของสมบัติ ทองย้อย ทุกท่าน ที่ญาติพี่น้อง พ่อ แม่ ลุง ป้า น้า อา ปู่ ย่า ตา ยาย เสียชีวิตจากโควิดรอบนี้ ผมก็ขอแสดงความเสียใจด้วย
แต่ถ้าในความเป็นจริง ญาติพี่น้อง หรือ บุคคลอันเป็นที่รักของ สมบัติ ทองย้อย ไม่มีใครตายเพราะโควิดล่ะ อาจจะป่วยเพราะติดเชื้อมาบ้าง หรือ พวกการ์ดสามนิ้ว หรือ แนวร่วมสามนิ้ว ที่ติดโควิด ไปนอน รพ.สนาม หรือ เข้ารับการรักษาและปัจจุบันหายแล้ว ไม่ตายเพราะโควิดล่ะ รัฐบาลผิดหรือ? พวกคุณมาม็อบแล้วติดเชื้อกันเอง แล้วจะมาโทษใคร รวมทั้ง เมื่อพวกคุณติดโควิด แต่แค่ป่วย ไม่ได้ตาย แล้วพวกคุณจะเข้าใจความรู้สึกของคนที่มี ญาติ หรือ บุคคลอันเป็นที่รักเสียชีวิตจากโรคโควิดได้อย่างไร? ที่โพสต์มา ผมอ่านแล้วนึกว่า สมบัติ ทองย้อย ระบายความคับแค้นเพราะ พ่อ แม่ ของตัวเองตายเพราะโควิดอย่างนั้นแหละ

การติดเชื้อ เจ็บป่วยเพราะโควิด แม้บางคนไม่มีวัคซีน ก็ไม่ได้แปลว่าจะตาย 100% บางคนมีโรคประจำตัว ไม่ได้รับวัคซีน จะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม ก็เสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้ ส่วนบางคนได้รับวัคซีนแล้วประมาท ไม่ใส่หน้ากาก ทำตัวเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อ มันก็มีโอกาสติดเชื้อ และอาจจะป่วยหนัก หรือตายก็ได้เช่นกัน ทุกอย่าง อยู่ที่การกระทำของตัวเอง ไม่ใช่เรื่องที่รัฐบาลต้องมารับผิดชอบ ต่างคนต่างต้องเอาตัวรอดจากการติดเชื้อกันเอาเอง มาตรการมีอะไรบ้าง สาธารณสุขเค้าก็บอกกันจนเหนื่อยมาสองปีแล้ว ฟังกันบ้างมั้ยล่ะ?

อย่าโหนศพของคนเหล่านั้นเลย อย่าเล่นการเมืองจนน่าเกลียด จนมองข้ามศีลธรรมอันดีงามไป

พฤติกรรมความเสี่ยงในการใช้ชีวิตของคนเราแต่ละคน รัฐบาลมากำกับไม่ได้หรอก ถ้ารัฐบาลเค้าเผด็จการจริงอย่างที่ปากคุณว่า คงบังคับใช้กฎหมายเรื่องการใส่หน้ากากได้โหดกว่านี้หลายสิบเท่าไปแล้ว แต่เพราะคำว่า "ประชาธิปไตย" ของเมืองไทยเรามัน Too Much เกินไปนี่แหละ มันถึงมีพวกที่ไม่สนโลก ไม่ใส่หน้ากากบ้าง เอาหน้ากากมาใส่ใต้คางบ้าง ทำตัวเสี่ยงที่จะติดเชื้อ หรือ แพร่เชื้อ มันก็เลยระบาดไปทั่ว ไม่จบสิ้นง่ายๆ นี่แหละ

ถามจริงๆ ว่า รัฐบาลมาบังคับได้มั้ยว่า เดือนนี้คุณห้ามออกจากบ้าน 100%, พรุ่งนี้ไปทำงานห้ามออกไปกินข้าวข้างนอก, ห้ามไม่ให้พบเจอเพื่อนเลยจนกว่าโควิดจะหมดไป หรือ ห้ามเดินซื้อของในห้างเด็ดขาด รัฐบาลทำได้มั้ย? ผมบอกเลยว่า รัฐบาลเค้าบังคับชีวิตของประชาชนแบบนั้นไม่ได้หรอกครับ เค้าก็ทำได้แค่ "ขอร้อง" มันก็เลยอยู่ที่ "ความรับผิดชอบส่วนบุคคล" ของแต่ละคน ที่จะรักษาชีวิตของตัวเองให้อยู่รอดปลอดภัยจากการติดโควิดกันได้แค่ไหน ผมเองก็ทำงานมาตลอด ทั้งโควิดระลอกแรก จนมาถึงปัจจุบันนี้ ก็ไม่ได้ติดโควิดแต่อย่างใด ทำตามมาตรการทางสาธารณสุข ระแวง และ ปอดแหกแบบสุดๆ เพราะกลัวติดเชื้อ ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ จนผิวที่มือลอก ล้างมือบ่อยจนก็อกน้ำเสียไปอันนึงแล้ว เปิดๆ ปิดๆ ตลอดเวลา ถอดเสื้อผ้าที่ไปทำงานมากองเอาไว้นอกบ้าน ป้องกันละอองเชื้อกระจายในบ้าน หวาดระแวง วิตกจริตกันขนาดนั้น แล้วผมผิดตรงไหนที่ไม่ติดเชื้อโควิด

โควิดมันน่ากลัว และอันตราย แต่เราต้องอยู่ร่วมกับมันให้ได้ อย่าประมาท อย่าละเลย อย่าบกพร่อง แม้เพียงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่น การจับเงินทอนจากการซื้อของ หรือ การรับพัสดุจากพนักงานขนส่ง ผมฉีดแอลกอฮอล์หมด และไม่จับ หู ตา จมูก ปาก ของตัวเองเลย จนกว่าจะได้ล้างมือให้สะอาดจริงๆ บอกเลยว่าเราต้องอยู่กับโควิดไปอีกนาน และต้องเปิดประเทศไปด้วย เราก็ต้องปรับตัวให้เคยชิน เหมือน "โควิด" เป็น "ไข้หวัดใหญ่" เพราะมันไม่จบง่ายๆ แน่นอน จะให้มียอดคนติดเชื้อ 0 คน พร้อมกันทุกประเทศทั่วโลกคงเป็นไปไม่ได้ ตราบใดที่มนุษย์ยังต้องเดินทาง ติดต่อสื่อสาร มีสังคมอยู่แบบนี้ มันก็จะเป็นๆ หายๆ ติดๆ ระบาดๆ กันได้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีวัคซีนที่พัฒนาจนนิ่งแล้วนั่นแหละ มันถึงจะหยุดโควิดลงได้ (แต่ยาก เพราะขนาดไข้หวัดใหญ่ มันยังพัฒนาสายพันธุ์ตัวเองตลอดเวลาเลย)

หยุดใช้ตรรกะป่วยๆ ด้วยการโหนศพคนตาย แล้วให้ร้ายคนที่ดูแลตัวเองดีที่ไม่ติดโควิดสักทีเถอะ มันน่าสมเพช

Popular posts from this blog

สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ เปิดศึกไล่ล่า พี่ทัก นักสืบเอกชน จนต้องขอยุติบทบาท นักสืบพิฆาตสามนิ้ว

นี่จะเป็นบทความสุดท้ายที่ผมจะเขียนบอกลาแฟนคลับทุกท่าน เพราะหลังจากที่ผมได้เขียนบทความเปิดโปง “สายลับผู้ที่จาบจ้วงสถาบัน” ของ สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ ออกไปก่อนหน้านี้แล้ว 2 บทความ (เดี๋ยวผมแปะลิ้งเอาไว้ที่ใต้นี้ให้ดูถ้าใครสนใจอยากรู้ที่มาที่ไปของเรื่องนี้ ว่าทำไมพี่ทักต้องยุติบทบาทด้วย) สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ผมได้รับแจ้งจากทั้งนักข่าวที่เป็นรุ่นน้อง และ ข้าราชการที่อยู่หน่วยความมั่นคง ส่งข้อความมาบอกเล่าว่า ให้ระวังตัว เนื่องจากตอนนี้ สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ เปิดศึกไล่ล่า พี่ทัก นักสืบเอกชน อย่างเต็มรูปแบบ หมายหัวเอาไว้ ว่าจะจับตัวให้ได้ และจะเล่นงานให้ได้ ก็แปลกนะครับ แทนที่จะตั้งคณะกรรมการสอบสวน เอาผิดลูกน้องตัวเอง แต่กลับหันเป้ามาล็อคที่คน “แฉ” เรื่องนี้ และจ้องจะตามล่าตัว จะเล่นงานให้ได้ ก็แปลกดีนะครับ “ข้า-ราช-การ” หน่วยนี้ บทความแรก ที่ผมเขียน แฉสายลับผู้ที่จาบจ้วงสถาบัน บทความที่สอง ที่ผมเขียน ถามหาความรับผิดชอบจากหน่วยต้นสังกัดของสายลับคนนั้น  สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ เปิดศึกไล่ล่า พี่ทัก นักสืบเอกชน จนทำให้พี่ทักต้องประกาศยุติบทบาท อันที่จริงแล้ว การติดต่อกับผมนั้น ทำไ...

นักสืบ แฉ "สายลับ" ของหน่วยข่าวแฝงตัวในม็อบสามนิ้ว "หนอน" กลายเป็น "เกลือ"

หลายคนคงจะได้เห็นภาพที่เอาผมเอาลงไปก่อนหน้านี้ ว่ามีคนมาโวยวาย กล่าวหาว่าผมเอาภาพที่เค้าถ่ายไปใช้ในเฟส/ทวิต โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งจริงครับ ถูกต้องตามที่เค้ากล่าวเลย แต่ๆๆ ใจเย็นๆ ครับ มันมีที่มาที่ไป ผมจะขอเล่าย้อนความตามลำดับซะหน่อย จะได้ให้ความรู้เรื่องการสืบสวนทางออนไลน์กับแฟนคลับทุกท่าน ( วิชา นักสืบ 101 ) จะได้เข้าใจว่า จริงๆ แล้ว ทุกคนก็ทำอย่างผมได้ มันไม่ยากเลย ไม่จำเป็นต้องใช้อะไรพิเศษ ก็สามารถพิสูจน์ตัวตนของบุคคลในโลกออนไลนได้ เพียงแต่ครั้งนี้ ผมดันไปจับปลาตัวใหญ่ได้ด้วยเบ็ดตกปลาไม้ไผ่อันเล็กๆ แค่อันเดียว อาจจะเรียกว่า ใช้แค่เบ็ดเล็กๆ แต่ตกได้ปลาวาฬซะงั้น มาดูกันครับว่า มันเป็นยังไง เรื่องนี้ยาวนิดนึง แต่รับรองว่า อ่านสนุก และได้ความรู้แน่ๆ ครับ ในช่วงที่ผ่านมาผมกำลังตามสืบพวก ตากล้อง/ช่างภาพ(เถื่อน) ทั้งหลาย ทั้งตากล้องภาพนิ่ง ทั้งพวกไลฟ์สด ที่แอบแฝงตัวมาอยู่ในม็อบสามนิ้ว แล้วถ่ายภาพหากิน แต่การจะหาตัวตนของคนพวกนี้ว่าเค้าเป็นใคร มันยากครับ แค่เจอหน้า เห็นหน้า มันพิสูจน์ตัวได้ยาก ยิ่งใส่หน้ากากด้วยแล้ว ยิ่งยากไปกันใหญ่ ดังนั้น เราก็ต้องวางเบ็ดใส่เหยื่อวางไว้ครับ เทคนิคก็คือ...

กลุ่มสามนิ้ว บ้านโป่ง เข้ามาร่วมก่อเหตุ 19 ก.ย. 64 แต่ไปไม่รอด โดนจับจนได้

เมื่อวานนี้ 19 ก.ย. 64 ท่ามกลางกลุ่มหมอกควันจากแก๊สน้ำตาที่นางเลิ้ง ขณะที่ผมอยู่ท่ามกลางวัยรุ่นสามนิ้วที่กำลังยิงพลุยิงประทัดใส่ตำรวจ คฝ. อยู่นั้น ก็พบบุคคลแปลกๆ 2 คน ที่มันดูแล้วผิดปกติอย่างชัดเจน กลุ่มคนพวกนี้ไม่ใช่เด็กวัยรุ่น และหน้าตาท่าทางไม่ใช่ “ทะลุแก๊ส” ตามปกติที่ผมเคยเห็น ในท่ามกลางหมอกควันนั้น ผมไม่สามารถบอกได้ว่าใครเป็นใคร เพราะพวกเขาใส่หน้ากาก แต่ที่เห็นผิดปกติชัดๆ ก็คือ รูปร่างและท่าทาง มันไม่ใช่เด็กวัยรุ่นแถวนี้ที่ผมคุ้นตาแน่นอน เมื่อเดินออกมาพ้นจากระยะแก๊สน้ำตา พอคนพวกนี้ถอดหน้ากากออก ผมก็นึกหน้าพวกเขาได้ทันที เพราะคนพวกนี้คือ ตัวแสบจาก กลุ่มสามนิ้ว บ้านโป่ง หรือที่เรียกกันเต็มๆ ว่า “ลูกบ้านโป่งไม่อินเผด็จการ” กลุ่มนี้ญาติของแฟนผมรู้จักเป็นอย่างดี เคยเอารูปและเรื่องราวมาเล่าให้ฟังในช่วงสัปดาห์ที่แล้วที่ผมกำลังทำวิจัยเรื่องขบวนการสามนิ้วอยู่ ตอนแรกผมก็ไม่สนใจสักเท่าไหร่ เพราะไม่ได้อยู่แถวนี้ แต่จำได้ว่า ญาติของแฟนผมเค้าเคยบอกว่า คนพวกนี้มักจะขับรถขึ้นมาร่วมม็อบใหญ่ๆ ด้วยเสมอ ก็แน่นอนล่ะ ไม่ได้จ่ายค่าน้ำมันเอง แต่มาร่วมเพื่อให้มีภาพการเข้าร่วมกิจกรรม ได้มันส์ด้วย (มันส์ต...