Skip to main content

Posts

สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ เปิดศึกไล่ล่า พี่ทัก นักสืบเอกชน จนต้องขอยุติบทบาท นักสืบพิฆาตสามนิ้ว

นี่จะเป็นบทความสุดท้ายที่ผมจะเขียนบอกลาแฟนคลับทุกท่าน เพราะหลังจากที่ผมได้เขียนบทความเปิดโปง “สายลับผู้ที่จาบจ้วงสถาบัน” ของ สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ ออกไปก่อนหน้านี้แล้ว 2 บทความ (เดี๋ยวผมแปะลิ้งเอาไว้ที่ใต้นี้ให้ดูถ้าใครสนใจอยากรู้ที่มาที่ไปของเรื่องนี้ ว่าทำไมพี่ทักต้องยุติบทบาทด้วย) สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ผมได้รับแจ้งจากทั้งนักข่าวที่เป็นรุ่นน้อง และ ข้าราชการที่อยู่หน่วยความมั่นคง ส่งข้อความมาบอกเล่าว่า ให้ระวังตัว เนื่องจากตอนนี้ สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ เปิดศึกไล่ล่า พี่ทัก นักสืบเอกชน อย่างเต็มรูปแบบ หมายหัวเอาไว้ ว่าจะจับตัวให้ได้ และจะเล่นงานให้ได้ ก็แปลกนะครับ แทนที่จะตั้งคณะกรรมการสอบสวน เอาผิดลูกน้องตัวเอง แต่กลับหันเป้ามาล็อคที่คน “แฉ” เรื่องนี้ และจ้องจะตามล่าตัว จะเล่นงานให้ได้ ก็แปลกดีนะครับ “ข้า-ราช-การ” หน่วยนี้ บทความแรก ที่ผมเขียน แฉสายลับผู้ที่จาบจ้วงสถาบัน บทความที่สอง ที่ผมเขียน ถามหาความรับผิดชอบจากหน่วยต้นสังกัดของสายลับคนนั้น  สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ เปิดศึกไล่ล่า พี่ทัก นักสืบเอกชน จนทำให้พี่ทักต้องประกาศยุติบทบาท อันที่จริงแล้ว การติดต่อกับผมนั้น ทำได้ง่
Recent posts

กลุ่มสามนิ้ว บ้านโป่ง เข้ามาร่วมก่อเหตุ 19 ก.ย. 64 แต่ไปไม่รอด โดนจับจนได้

เมื่อวานนี้ 19 ก.ย. 64 ท่ามกลางกลุ่มหมอกควันจากแก๊สน้ำตาที่นางเลิ้ง ขณะที่ผมอยู่ท่ามกลางวัยรุ่นสามนิ้วที่กำลังยิงพลุยิงประทัดใส่ตำรวจ คฝ. อยู่นั้น ก็พบบุคคลแปลกๆ 2 คน ที่มันดูแล้วผิดปกติอย่างชัดเจน กลุ่มคนพวกนี้ไม่ใช่เด็กวัยรุ่น และหน้าตาท่าทางไม่ใช่ “ทะลุแก๊ส” ตามปกติที่ผมเคยเห็น ในท่ามกลางหมอกควันนั้น ผมไม่สามารถบอกได้ว่าใครเป็นใคร เพราะพวกเขาใส่หน้ากาก แต่ที่เห็นผิดปกติชัดๆ ก็คือ รูปร่างและท่าทาง มันไม่ใช่เด็กวัยรุ่นแถวนี้ที่ผมคุ้นตาแน่นอน เมื่อเดินออกมาพ้นจากระยะแก๊สน้ำตา พอคนพวกนี้ถอดหน้ากากออก ผมก็นึกหน้าพวกเขาได้ทันที เพราะคนพวกนี้คือ ตัวแสบจาก กลุ่มสามนิ้ว บ้านโป่ง หรือที่เรียกกันเต็มๆ ว่า “ลูกบ้านโป่งไม่อินเผด็จการ” กลุ่มนี้ญาติของแฟนผมรู้จักเป็นอย่างดี เคยเอารูปและเรื่องราวมาเล่าให้ฟังในช่วงสัปดาห์ที่แล้วที่ผมกำลังทำวิจัยเรื่องขบวนการสามนิ้วอยู่ ตอนแรกผมก็ไม่สนใจสักเท่าไหร่ เพราะไม่ได้อยู่แถวนี้ แต่จำได้ว่า ญาติของแฟนผมเค้าเคยบอกว่า คนพวกนี้มักจะขับรถขึ้นมาร่วมม็อบใหญ่ๆ ด้วยเสมอ ก็แน่นอนล่ะ ไม่ได้จ่ายค่าน้ำมันเอง แต่มาร่วมเพื่อให้มีภาพการเข้าร่วมกิจกรรม ได้มันส์ด้วย (มันส์ต

วิเคราะห์ม็อบ 19 ก.ย. 64 ตำรวจถูกปั่นหัว หรือ ม็อบสามนิ้วหัวรุนแรงกำลังจะพ่ายแพ้?

หลังจากที่เมื่อวานนี้ 19 ก.ย. 64 ทางกลุ่มต่างๆ ที่มีแนวคิดต่อต้านรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งหลาย ต่างออกมาจัดกิจกรรมโดยอ้างว่ารำลึกถึงรัฐประหารเมื่อ 19 ก.ย. 49 (ซึ่งเป็นเพียงแค่ข้ออ้างไปเรื่อยเปื่อย) โดยพวกกลุ่มต่างๆ เหล่านี้ ได้ประโคมข่าวโหมโรงว่า กิจกรรมวันที่ 19 ก.ย. นี้จะต้องยิ่งใหญ่ ขับไล่ลุงตู่ให้ลาออกจากการเป็นนายกได้อย่างแน่นอน เพราะกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้ จะสามารถสร้างภาพในแง่ลบ ส่งผลให้เสถียรภาพของรัฐบาลสั่นคลอนลงได้แน่ๆ หลายคนที่ไม่ได้ติดตามข่าวการเมืองมาอย่างต่อเนื่อง ก็อาจจะจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าอะไรเป็นอะไร งั้นผมจะมา วิเคราะห์ม็อบ 19 ก.ย. 64 แบบสั้นๆ เข้าใจง่ายๆ ให้ทุกคนได้เข้าใจกันครับ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันบ้าง วิเคราะห์ม็อบ 19 ก.ย. 64 ตกลงใครแพ้ ใครชนะกันแน่ ตำรวจ หรือ ผู้ชุมนุม ม็อบ 19 ก.ย. 64 เริ่มต้นขึ้นในช่วงตอนประมาณบ่ายกว่าๆ ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่แยกอโศก ที่มี 2 ดาราการเมืองคนสำคัญอย่าง สมบัติ บุญงามอนงค์ และ ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ที่จัดกิจกรรมขับรถยนต์ชนรถถัง ซึ่งเป็นอะไรที่ปัญญาอ่อนมากๆ โดยการทำรถถังกระดาษ/โครงไม้ขึ้นมา แล้วก็ผลักให้ไปชนกับรถแท็กซี่ แล้วก็รุมกระทืบรถถัง

จับตาผลการสอบสวน ครู Ben การ์ดสามนิ้ว ที่ อบจ.นนทบุรี ไม่กล้าเปิดเผยกับสังคม

ยังจำกันได้หรือไม่ครับ ที่ก่อนหน้านี้ ผมได้เอาข้อมูลเรื่อง ครูสาว สอนเด็กประถม รร.นนทบุรี เป็นการ์ดสามนิ้ว   มาเปิดเผยกัน จนหลายคนก็ตั้งคำถามว่า ครูมีพฤติกรรมแบบนี้มันเหมาะสมแล้วหรือ? เด็กจะได้รับอะไรจากครูคนนี้ไปบ้าง? จะโดนล้างสมองหรือไม่? ล่าสุดผมได้รับข้อมูลจากพลเมืองดี เกี่ยวกับ ขั้นตอนการทำงานที่ผ่านมาของทาง อบจ.นนทบุรี มาแจ้งให้ทุกท่านได้ทราบกันแล้วครับ จับตาผลการสอบสวน ครู Ben การ์ดสามนิ้ว ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร? หลังจากที่มีการนำเสนอเรื่องนี้ออกไป ทาง อบจ.นนทบุรี นิ่งเงียบครับ ใช่ครับ ทุกท่านฟังไม่ผิด อบจ.นนทบุรี ที่มี พ.ต.อ.ธงชัย เย็นประเสริฐ เป็น นายก อบจ. คนนี้นี่แหละครับ นิ่งเงียบสนิท คนที่มียศถาบรรดาศักดิ์ เคยเป็นข้าราชการตำรวจมาก่อน คนนี้นี่แหละครับ ที่นิ่งเงียบ นิ่งแบบชนิดที่ว่า ไม่สนใจ ไม่ขยับ ไม่ทำอะไรทั้งสิ้น จนต่อมา มีทางกลุ่มเครือข่ายปกป้องสถาบัน ไปยื่นหนังสือถึงทาง อบจ.นนทบุรี โดยตรง เค้าก็ส่งตัวแทนออกมารับ แล้วก็นิ่ง ใช่ครับ นิ่งอย่างเดียว นิ่งจริงๆ นิ่งแบบไม่ทำอะไรเลยนะครับ ไม่รู้ว่าโชคดี หรือจะเรียกว่าอะไรดี ที่ “ผู้ว่าราชการ จ.นนทบุรี” ได้ขยับตัวก่อน นายก อบ

เปิดเผย “โต้ง สายลับที่มีใจสามนิ้ว” เด็กของ สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ผมได้เขียนบทความ นักสืบ แฉ "สายลับ" ของหน่วยข่าวแฝงตัวในม็อบสามนิ้ว "หนอน" กลายเป็น "เกลือ" ไปแล้วนั้น มีแฟนคลับหลายคนที่เป็นข้าราชการสอบถามเข้ามาว่า บุคคลดังกล่าว สังกัดอยู่ในหน่วยงานใด เพราะไม่พอใจกับการเสียดสีสถาบันของ โต้ง เป็นอย่างมาก ซึ่งผมเองก็เกรงว่าเพื่อนผมที่เป็นคนให้ข้อมูลจะได้รับความเดือดร้อนไปด้วยหรือไม่ เนื่องจากอยู่หน่วยงานเดียวกันกับโต้ง จึงไม่ได้เปิดเผยชื่อของหน่วยงานนั้นตั้งแต่แรก แต่หลังจากที่ผมได้คุยกับเพื่อนเพิ่มเติมหลังจากที่เอาบทความลงไป เพื่อนผมบอกว่า ควรจะเปิดเผยชื่อหน่วยงานไปเลย เพราะหน่วยงานนี้ มักจะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับความผิดของลูกน้อง และหัวหน้าแผนกส่วนใหญ่ก็ชอบเอาดีเข้าตัว บางคนก็มีใจเป็น “สามนิ้ว” ไม่ต่างจาก โต้ง ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมาก ผมก็เพิ่งรู้ว่ามีแบบนี้ในหน่วยงานราชการด้วย หากหน่วยงานความมั่งคงทางด้านการข่าว กลับมีคนที่มีใจสามนิ้ว และไม่เอาสถาบันกษัตริย์ อยู่ในหน่วยงานนี้ รับเงินเดือนหลวง แต่ทรยศหลวง มันทุเรศเกินไปนะครับ เปิดเผย โต้ง สายลับที่มีใจสามนิ้ว ลูกรักของ สำนักงานข่าวกรอ

แบงค์ “เมียสลิ่มก็ไม่เอา” ควงแฟนใหม่ “ที่เกลียดสลิ่ม” ออกงาน Car Mob 19 ก.ย. 64

เรื่องนี้จะไม่เอาขยายผลก็คงจะไม่ได้ ถ้าใครได้ติดตามเฟสบุ๊ค และทวิตเตอร์ “พี่ทัก นักสืบเอกชน” มาอย่างต่อเนื่อง จะเห็นว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 64 ที่ผ่านมา ตำรวจได้เข้าไปตรวจค้นบ้านของแกนนำกลุ่ม “โรนิน ฝั่งธน” นั่นคือ แบงค์ ตามคลิปที่เห็นด้านล่างนี้นี่แหละครับ ซึ่งการตรวจค้นของทางตำรวจก็ทำตามกฎหมายนะครับ มีหมายค้นมาอย่างถูกต้อง ประเด็นก็คือ ภรรยาของ แบงค์ ไม่พอใจที่ แบงค์ หาเรื่องเข้าบ้าน เตือนแล้วว่าอย่าไปม็อบก็ไม่ฟัง จนตำรวจบุกมาค้นบ้าน อับอายคนในหมู่บ้าน แต่แบงค์ก็เลยสวนกลับ ว่าภรรยาตัวเองว่าเป็นสลิ่ม จนทำให้ แบงค์ จิ๊กโก๋ โรนินฝั่งธน โด่งดังไปทั้งประเทศด้วยวลีเด็ด “เมียสลิ่มก็ไม่เอาครับ” และประกาศว่าจะย้ายออกจากบ้านทันที แล้วบ่ายวันนั้นก็ไปม็อบต่อ แบงค์ “เมียสลิ่มก็ไม่เอา” นอกใจภรรยา ตั้งแต่ก่อนที่จะมีประเด็นหลังจากโดนตำรวจค้นบ้าน หลังจากวันที่ 10 ก.ย. 64 แบงค์ “เมียสลิ่มก็ไม่เอาครับ” ก็ได้ย้ายออกจากบ้านจริงๆ เหมือนจะประกาศแยกทางกับภรรยา แต่มีการโพสต์เป็นห่วงลูกชายด้วย ทำให้หลายคนมองว่า แบงค์ เป็นพ่อบ้านใจกล้าที่ไม่กลัวเมียจริงๆ แต่ประเด็นก็คือ เมื่อทำการตรวจสอบย้อนหลังไป จะพบว่า

แจ้งเตือนถึงน้องๆ สามนิ้ว ทุกกลุ่ม อ่านและแชร์กันออกไปด้วย

  การชุมนุมในวันนี้ 19 ก.ย. 64 อาจจะไม่สงบราบรื่นและสวยงามอย่างที่คิด แต่ไม่ใช่เพราะว่า จะเกิดการปะทะกับตำรวจ หรือ มีการไล่จับแนวร่วมม็อบ หรือ ใช้แก๊สน้ำตากับกระสุนยาง เหมือนเช่นที่เคยเป็นมา เพราะสิ่งเหล่านั้น ผมเชื่อว่า น้องๆ ไม่ได้ตื่นเต้น หรือหวาดกลัวอะไรอยู่แล้ว หลายคนตั้งใจมาลุยกับตำรวจอยู่แล้ว แต่สิ่งที่อยากจะเตือนก็มีอยู่ 4 ข้อ ดังนี้   1. คดีความ ขณะนี้ประเทศของเรายังมีการประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉิน อยู่นะครับ โดยเฉพาะเรื่องของ การห้ามมิให้มีการชุมนุม หรือ มั่วสุมกัน เพื่อป้องกันการแพร่เชื่อโควิด แต่ที่เห็นว่ายังชุมนุมกันได้นั้น คือ ตำรวจเค้าไม่สลาย แต่จะไล่ออกหมายจับกุมตัวมาดำเนินคดีย้อนหลังนะครับ หากย้อนดูให้ดีๆ จะเห็นว่า ผลของการชุมนุมต่างๆ เริ่มมีออกมาให้เห็นกันแล้ว นั่นคือ "หมายเรียก" และ "หมายจับ" ที่จะย้อนหลังออกมาเรื่อยๆ เหมือนเป็น "เจ้ากรรม นายเวร" ของพวกแกนนำและแนวร่วมทั้งหลาย วันนี้น้องๆ อาจจะรู้สึกคึกคะนอง คิดว่า มากันเยอะ มีคนหมู่มาก ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรต้องกลัว แต่อย่าลืมว่า รอบตัวของน้องในที่ชุมนุม คนพวกนั้นอาจจะไม่ใช่ "แนวร่วมสามนิ