Skip to main content

จับตาผลการสอบสวน ครู Ben การ์ดสามนิ้ว ที่ อบจ.นนทบุรี ไม่กล้าเปิดเผยกับสังคม

ยังจำกันได้หรือไม่ครับ ที่ก่อนหน้านี้ ผมได้เอาข้อมูลเรื่อง ครูสาว สอนเด็กประถม รร.นนทบุรี เป็นการ์ดสามนิ้ว  มาเปิดเผยกัน จนหลายคนก็ตั้งคำถามว่า ครูมีพฤติกรรมแบบนี้มันเหมาะสมแล้วหรือ? เด็กจะได้รับอะไรจากครูคนนี้ไปบ้าง? จะโดนล้างสมองหรือไม่? ล่าสุดผมได้รับข้อมูลจากพลเมืองดี เกี่ยวกับ ขั้นตอนการทำงานที่ผ่านมาของทาง อบจ.นนทบุรี มาแจ้งให้ทุกท่านได้ทราบกันแล้วครับ

จับตาผลการสอบสวน ครู Ben การ์ดสามนิ้ว ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร?

หลังจากที่มีการนำเสนอเรื่องนี้ออกไป ทาง อบจ.นนทบุรี นิ่งเงียบครับ ใช่ครับ ทุกท่านฟังไม่ผิด อบจ.นนทบุรี ที่มี พ.ต.อ.ธงชัย เย็นประเสริฐ เป็น นายก อบจ. คนนี้นี่แหละครับ นิ่งเงียบสนิท คนที่มียศถาบรรดาศักดิ์ เคยเป็นข้าราชการตำรวจมาก่อน คนนี้นี่แหละครับ ที่นิ่งเงียบ นิ่งแบบชนิดที่ว่า ไม่สนใจ ไม่ขยับ ไม่ทำอะไรทั้งสิ้น จนต่อมา มีทางกลุ่มเครือข่ายปกป้องสถาบัน ไปยื่นหนังสือถึงทาง อบจ.นนทบุรี โดยตรง เค้าก็ส่งตัวแทนออกมารับ แล้วก็นิ่ง ใช่ครับ นิ่งอย่างเดียว นิ่งจริงๆ นิ่งแบบไม่ทำอะไรเลยนะครับ

ไม่รู้ว่าโชคดี หรือจะเรียกว่าอะไรดี ที่ “ผู้ว่าราชการ จ.นนทบุรี” ได้ขยับตัวก่อน นายก อบจ. ซะอีก คิดดูเอาว่า ผู้ว่าราชการ ที่สูงกว่า อบจ.นนทบุรี ต้องเป็นคนขยับ และสั่งการลงมาที่ อบจ.นนทบุรี ว่า “เฮ้ย.. อย่านิ่งสิวะ ตั้งเรื่องสอบสวนครูคนนี้ได้แล้ว” นั่นแหละครับ อบจ.นนทบุรี ถึงได้เริ่มขยับ

อบจ.นนทบุรี ก็ไม่ตั้งกรรมการสอบเองนะ เพราะไม่อยากขยับ ไม่อยากเอาผิดครู Ben ล่ะว่างั้น ก็เลยสั่งให้ทาง โรงเรียนสุเหร่าลากค้อน เป็นคนตั้งคณะกรรมการสอบสวนละกัน ซึ่งในการสอบสวน ครู Ben ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา (ของมันแน่อยู่แล้ว) ไม่ว่าจะเป็น ภาพ หรือ คลิปต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่า สิ่งที่ครู Ben ปฏิเสธ ทาง อบจ. ก็คงจะเชื่อ 100% แล้วก็ทำให้เรื่องมันเงียบไปอย่างแน่นอน เพราะเค้าถือคติว่า “เดี๋ยวเรื่องมันก็เงียบไปเองแหละ”

ครู Ben ยอมรับแค่ว่า เมื่อก่อนเคยเป็นแอดมินของ อนาคตใหม่นนทบุรี แต่ตอนนี้ไม่ได้เป็นแล้ว และวันนั้น ที่มี Car Mob ที่ถ่ายรูปกับ เจี๊ยบ อมรัตน์ นั่นก็ไม่ได้ไปม็อบนะ แค่เดินผ่านไป แล้วเพื่อนเรียกมาถ่ายรูป ก็เลยไปถ่ายรูปเฉยๆ (ฟังขึ้นมั้ยครับ)

ภาพนี้น่ะเหรอ ที่แค่เดินผ่านไปแล้วเพื่อนเรียกไปถ่ายรูป ถามจริง??

ณ เวลานี้ ผลการสอบสวน ได้ส่งไปถึงทาง ผู้ว่าราชการ จ.นนทบุรี แล้ว ผมเองก็ไม่รู้ว่า ผลจะออกมาเป็นแบบไหน ก็หวังว่า ทางผู้ว่าราชการ จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นคนของ กระทรวงมหาดไทย จะมีวิจารณญาณ ที่ถูกต้องตามครรลองคลองธรรมนะครับ และด้วยหลักฐานที่ผมส่งมาให้ ที่คนเห็นกันไปแล้วเป็นจำนวนมาก แล้วยังมองว่า นี่ไม่เพียงพอที่จะตัดสินความเหมาะสมในการเป็นครู ที่สอนเด็กๆ เยาวชนที่เป็นผ้าขาวได้ ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว จะตัดสินผลออกมาแบบค้านสายตาประชาชน ก็น่าเกลียดเกินไปนะครับ

ครู Ben คือคนเดียวกับ Ben 305 สังกัด กองร้อยที่ 3 กลุ่มการ์ด Protect Freedom ที่ปะทะกับตำรวจ และทำเรื่องผิดกฎหมายการชุมนุม รวมทั้ง ในกลุ่มก็พูดแต่เรื่องหมิ่นสถาบันกันตลอด แบบนี้พฤติกรรมยังเหมาะสมกับความเป็นครูมั้ยล่ะครับ?

อันนี้ครู Ben ก็จะบอกว่าบังเอิญเดินไปเจอแล้วถ่ายรูปเหรอครับ? มีหลายรูปที่ครู Ben เอามาลงเพื่อยืนยันนะว่า ร่วมทำงานกับการ์ด และอยู่ในม็อบ ไม่ใช่การเดินไปเจอแล้วบังเอิญถ่ายรูป

ครู Ben มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธทุกอย่างอยู่แล้ว เพราะการปฏิเสธ มันง่ายกว่าการยอมรับ และไม่แน่ ครู Ben ก็อาจจะได้รับการช่วยเหลือจาก ทาง อบจ.นนทบุรี ชี้ช่องให้ว่า ปฏิเสธไป เดี๋ยวเรื่องก็จบ เพราะพฤติกรรมของทาง อบจ.นนทบุรี มันชัดเกินไปครับ เงียบสนิทมากๆ ที่สำคัญ ไม่แม้แต่จะสั่งการครูทุกคนที่อยู่ภายใต้ อบจ.นนทบุรี ว่า อย่ามีพฤติกรรมแบบนี้ อย่าไปร่วมม็อบ หรือ อะไรพวกนี้ ไม่มีเลย แสดงว่า อบจ.นนทบุรี ภายในการดูแลของ นายก อบจ. พ.ต.อ.ธงชัย เย็นประเสริฐ มองเห็นแล้วว่า การเป็นครูในสังกัด อบจ. ก็สามารถไปร่วมม็อบได้ ไปเป็นการ์ดในม็อบ ไปปะทะกับตำรวจได้ ไม่ผิดอะไร หากไปนอกเวลาราชการ

เอาจริงๆ สิครับ เราจะอยู่กันแบบนี้ใช่มั้ย?

ทำไม พ.ต.อ.ธงชัย เย็นประเสริฐ เป็น นายก อบจ. ถึงได้เก๋าเกม และกล้าที่จะ “เงียบ” ทั้งที่เป็นเรื่องที่ทำให้ชื่อเสียงของ อบจ. เสื่อมเสีย และมีผลต่อเยาวชนที่จะเป็นกำลังสำคัญในอนาคตของชาติ คำตอบอยู่ที่ ที่มาของ พ.ต.อ.ธงชัย ว่าได้มาเป็น นายก อบจ. ได้อย่างไร? ใช่ครับ เราต้องดูว่า เค้าอยู่ฝ่ายไหน จากการเลือกตั้งที่ผ่านมา

พ.ต.อ.ธงชัย ได้รับการสนับสนุนจาก “กลุ่มผึ้งหลวง” และมี “นายสมนึก ธนเดชากุล” นายกเล็กนนท์ 9 สมัย คอยให้การสนับสนุนอยู่ด้วย ซึ่งถ้าว่ากันตรงๆ พูดแบบไม่อ้อมค้อม ก็คือ สายตรงของพรรคเพื่อไทยนั่นแหละครับ แค่นี้คงไม่ต้องอธิบายกันเยอะแล้วนะว่าทำไม อบจ.นนทบุรี ในปัจจุบัน ถึงได้นิ่งไปซะทุกเรื่อง ที่เกี่ยวกับการโจมตีรัฐบาลนายกลุงตู่ โดยเฉพาะ “ป๋านึก” นี่ เสื้อแดงตัวเป้ง ที่ไม่เคยทำอะไรที่จะขัดแย้งกับพวกสีส้ม หรือสีแดงใน จ.นนทบุรี เลย

ณ เวลานี้ ครู Ben ไม่ได้สะทกสะท้านใดๆ กับสิ่งที่ผมได้นำมาเปิดเผยต่อสังคมเลย จะมีก็แค่ เสียใจเพราะอกหักจากแฟน แค่นั้นเอง ส่วนเรื่องที่ผมแฉไปก่อนหน้านี้ ครู Ben ไม่มีอาการเดือดเนื้อร้อนใจแต่ประการใด อาการเดียวกับ อบจ.นนทบุรี เลย ผมมั่นใจมากว่า เค้าคุยกันแล้วครับ แต่จะคุยกันแบบไหน ท่าไหน แนวไหน แนวนอน แนวตั้ง อันนี้ผมตอบไม่ได้จริงๆ

 

ที่บอกว่าหัวใจเข้มแข็งนี่คือ เรื่องที่อกหักเพราะเลิกกับแฟนนะ

อันนี้มาเมาเพราะเลิกกับแฟน ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่โดนแฉพฤติกรรมเลย

นี่เป็นปัญหาของ กระทรวงมหาดไทย แล้วนะครับ ที่ต้องลงมาจัดการ ผมจะไปทำอะไรได้มากกว่านี้ เพราะมันเป็นเรื่องของทางราชการ ที่ผมทำได้ก็แค่ถามถึง สำนึก ของคำว่า ข้า-ราช-การ ว่ามันหมายถึงอะไร ก็เท่านั้น นี่ไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นปัญหาด้านความมั่งคง หากปล่อยเอาไว้ จะเกิดความวุ่นวายในอนาคตอย่างแน่นอน แต่ผมมั่นใจว่า ด้วยอำนาจของ กระทรวงมหาดไทย ที่มีในมือ สามารถจัดการเรื่องนี้ได้อย่างสบายๆ อยู่แล้ว

คำถามก็คือ กระทรวงมหาดไทย จะทำ หรือ ไม่ทำ แค่นั้นแหละ

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ณ เวลานี้ ก็คือ ศรัทธา ของประชาชนครับ ถ้าเป็นแบบนี้นะ คนที่เคยมั่นใจ เลือก ลุงตู่ มาเป็นนายก ผมว่า สมัยหน้า เค้าก็คงจะไม่เลือกแล้วล่ะ เพราะเลือกลุงตู่มา หรือ คนอื่นขึ้นมา มันก็เหมือนเดิม ไม่เห็นจะมีความเป็นธรรมอะไรเกิดขึ้นในสังคมได้เลย ระบบราชการก็ยังเละเทะ และปล่อยให้คนที่ไม่มีจิตสำนึก เข้ามาอยู่ในองค์กรได้ แล้วแบบนี้ “การ” ของ “ราช” จะเป็นอย่างไร

ผมเองก็ท้อใจไม่แพ้ทุกท่านหรอกนะครับ

Popular posts from this blog

สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ เปิดศึกไล่ล่า พี่ทัก นักสืบเอกชน จนต้องขอยุติบทบาท นักสืบพิฆาตสามนิ้ว

นี่จะเป็นบทความสุดท้ายที่ผมจะเขียนบอกลาแฟนคลับทุกท่าน เพราะหลังจากที่ผมได้เขียนบทความเปิดโปง “สายลับผู้ที่จาบจ้วงสถาบัน” ของ สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ ออกไปก่อนหน้านี้แล้ว 2 บทความ (เดี๋ยวผมแปะลิ้งเอาไว้ที่ใต้นี้ให้ดูถ้าใครสนใจอยากรู้ที่มาที่ไปของเรื่องนี้ ว่าทำไมพี่ทักต้องยุติบทบาทด้วย) สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ผมได้รับแจ้งจากทั้งนักข่าวที่เป็นรุ่นน้อง และ ข้าราชการที่อยู่หน่วยความมั่นคง ส่งข้อความมาบอกเล่าว่า ให้ระวังตัว เนื่องจากตอนนี้ สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ เปิดศึกไล่ล่า พี่ทัก นักสืบเอกชน อย่างเต็มรูปแบบ หมายหัวเอาไว้ ว่าจะจับตัวให้ได้ และจะเล่นงานให้ได้ ก็แปลกนะครับ แทนที่จะตั้งคณะกรรมการสอบสวน เอาผิดลูกน้องตัวเอง แต่กลับหันเป้ามาล็อคที่คน “แฉ” เรื่องนี้ และจ้องจะตามล่าตัว จะเล่นงานให้ได้ ก็แปลกดีนะครับ “ข้า-ราช-การ” หน่วยนี้ บทความแรก ที่ผมเขียน แฉสายลับผู้ที่จาบจ้วงสถาบัน บทความที่สอง ที่ผมเขียน ถามหาความรับผิดชอบจากหน่วยต้นสังกัดของสายลับคนนั้น  สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ เปิดศึกไล่ล่า พี่ทัก นักสืบเอกชน จนทำให้พี่ทักต้องประกาศยุติบทบาท อันที่จริงแล้ว การติดต่อกับผมนั้น ทำไ...

แบงค์ “เมียสลิ่มก็ไม่เอา” ควงแฟนใหม่ “ที่เกลียดสลิ่ม” ออกงาน Car Mob 19 ก.ย. 64

เรื่องนี้จะไม่เอาขยายผลก็คงจะไม่ได้ ถ้าใครได้ติดตามเฟสบุ๊ค และทวิตเตอร์ “พี่ทัก นักสืบเอกชน” มาอย่างต่อเนื่อง จะเห็นว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 64 ที่ผ่านมา ตำรวจได้เข้าไปตรวจค้นบ้านของแกนนำกลุ่ม “โรนิน ฝั่งธน” นั่นคือ แบงค์ ตามคลิปที่เห็นด้านล่างนี้นี่แหละครับ ซึ่งการตรวจค้นของทางตำรวจก็ทำตามกฎหมายนะครับ มีหมายค้นมาอย่างถูกต้อง ประเด็นก็คือ ภรรยาของ แบงค์ ไม่พอใจที่ แบงค์ หาเรื่องเข้าบ้าน เตือนแล้วว่าอย่าไปม็อบก็ไม่ฟัง จนตำรวจบุกมาค้นบ้าน อับอายคนในหมู่บ้าน แต่แบงค์ก็เลยสวนกลับ ว่าภรรยาตัวเองว่าเป็นสลิ่ม จนทำให้ แบงค์ จิ๊กโก๋ โรนินฝั่งธน โด่งดังไปทั้งประเทศด้วยวลีเด็ด “เมียสลิ่มก็ไม่เอาครับ” และประกาศว่าจะย้ายออกจากบ้านทันที แล้วบ่ายวันนั้นก็ไปม็อบต่อ แบงค์ “เมียสลิ่มก็ไม่เอา” นอกใจภรรยา ตั้งแต่ก่อนที่จะมีประเด็นหลังจากโดนตำรวจค้นบ้าน หลังจากวันที่ 10 ก.ย. 64 แบงค์ “เมียสลิ่มก็ไม่เอาครับ” ก็ได้ย้ายออกจากบ้านจริงๆ เหมือนจะประกาศแยกทางกับภรรยา แต่มีการโพสต์เป็นห่วงลูกชายด้วย ทำให้หลายคนมองว่า แบงค์ เป็นพ่อบ้านใจกล้าที่ไม่กลัวเมียจริงๆ แต่ประเด็นก็คือ เมื่อทำการตรวจสอบย้อนหลังไป จะพบว่า ...

นักสืบ แฉ "สายลับ" ของหน่วยข่าวแฝงตัวในม็อบสามนิ้ว "หนอน" กลายเป็น "เกลือ"

หลายคนคงจะได้เห็นภาพที่เอาผมเอาลงไปก่อนหน้านี้ ว่ามีคนมาโวยวาย กล่าวหาว่าผมเอาภาพที่เค้าถ่ายไปใช้ในเฟส/ทวิต โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งจริงครับ ถูกต้องตามที่เค้ากล่าวเลย แต่ๆๆ ใจเย็นๆ ครับ มันมีที่มาที่ไป ผมจะขอเล่าย้อนความตามลำดับซะหน่อย จะได้ให้ความรู้เรื่องการสืบสวนทางออนไลน์กับแฟนคลับทุกท่าน ( วิชา นักสืบ 101 ) จะได้เข้าใจว่า จริงๆ แล้ว ทุกคนก็ทำอย่างผมได้ มันไม่ยากเลย ไม่จำเป็นต้องใช้อะไรพิเศษ ก็สามารถพิสูจน์ตัวตนของบุคคลในโลกออนไลนได้ เพียงแต่ครั้งนี้ ผมดันไปจับปลาตัวใหญ่ได้ด้วยเบ็ดตกปลาไม้ไผ่อันเล็กๆ แค่อันเดียว อาจจะเรียกว่า ใช้แค่เบ็ดเล็กๆ แต่ตกได้ปลาวาฬซะงั้น มาดูกันครับว่า มันเป็นยังไง เรื่องนี้ยาวนิดนึง แต่รับรองว่า อ่านสนุก และได้ความรู้แน่ๆ ครับ ในช่วงที่ผ่านมาผมกำลังตามสืบพวก ตากล้อง/ช่างภาพ(เถื่อน) ทั้งหลาย ทั้งตากล้องภาพนิ่ง ทั้งพวกไลฟ์สด ที่แอบแฝงตัวมาอยู่ในม็อบสามนิ้ว แล้วถ่ายภาพหากิน แต่การจะหาตัวตนของคนพวกนี้ว่าเค้าเป็นใคร มันยากครับ แค่เจอหน้า เห็นหน้า มันพิสูจน์ตัวได้ยาก ยิ่งใส่หน้ากากด้วยแล้ว ยิ่งยากไปกันใหญ่ ดังนั้น เราก็ต้องวางเบ็ดใส่เหยื่อวางไว้ครับ เทคนิคก็คือ...