Skip to main content

ร้านผลิตเสื้อ ใน จ.ราชบุรี หากินกับการคงอยู่ของ กลุ่ม "ทะลุแก๊ซ"

ร้านผลิตเสื้อ ใน จ.ราชบุรี หากินกับการคงอยู่ของ กลุ่ม "ทะลุแก๊ซ" รับผลิตเสื้อกลุ่ม "ทะลุแก๊ซ"

จากข้อมูลของบุคคลที่ใช้ชื่อเฟสบุ๊ค Deew Nakab ได้โพสต์ข้อความว่า ตนเองได้รับเสื้อสกรีน "ทะลุแก๊ซ" จากบุคคลหนึ่ง จากนั้นก็มีคนเข้ามาคอมเม้นท์สอบถามถึงราคา และ การสั่งซื้อ โดยมีบุคคลหนึ่งที่ใช้ชื่อในเฟสบุ๊คว่า "วาทินี เอ๋ ส่องสว่าง" เข้ามาตอบซึ่งคาดว่า จะเป็นผู้ผลิตเสื้อดังกล่าว ในราคาตัวละ 150 บาท และค่าจัดส่งอีก 50 บาทนั้น ผมได้ทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับที่มาที่ไปของบุคคลที่ใช้ชื่อในเฟสบุ๊คว่า "วาทินี เอ๋ ส่องสว่าง" ดูว่า เป็นใคร? เพราะอยากจะรู้ว่า มีตัวตนจริงหรือไม่ และเป็นผู้ผลิตเสื้อสกรีนลายดังกล่าวจริงหรือไม่? หากสั่งจองเสื้อไปแล้ว จะได้รับเสื้อจริงๆ หรือไม่? เพราะถ้าคิดที่จะขายเสื้อโดยอ้างชื่อกลุ่ม "ทะลุแก๊ซ" จริงๆ มันก็ต้องโปร่งใส และตรวจสอบที่มาที่ไปได้ด้วยจริงมั้ย?

เอ๋ วาทินี ส่องสว่าง เจ้าของร้านผลิตเสื้อ ใน จ.ราชบุรี ที่หากินกับการคงอยู่ของกลุ่ม ทะลุแก๊ซ

จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น พบว่า ผู้ใช้เฟสบุ๊ค "วาทินี เอ๋ ส่องสว่าง" นั้น ชื่อ(เดิม) นางสาว สุธีธิดา ส่องสว่าง (ปัจจุบันคาดว่าน่าจะเปลี่ยนชื่อเป็น นางสาว วาทินี ส่องสว่าง) เปิดร้านรับสกรีนเสื้อ หมวก เคสมือถือ ชื่อว่า "DNA Station Shop" อยู่ที่ตลาดเมืองทอง ซอยข้าง CJ เมืองราชบุรี  

(พิกัดใน Google Map - https://goo.gl/maps/Cbdhnmn7TPiUFvTA9)

 
ยานพาหนะที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับ นางสาว วาทินี ก็ตามภาพด้านล่าง

คาดว่าน่าจะมีรถยนต์ PPV อีกหนึ่งคัน อยู่ในระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติมนะครับ
ปัจจุบัน นางสาว วาทินี คบหาอยู่กับ นาย พงศ์ธนิต พัฒนวงศ์ศิริ ส่วนเรื่องครอบครัวด้านอื่นๆ ไม่ขอเปิดเผย (แต่ทางผมได้ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลเอาไว้เรียบร้อยแล้ว)

สำหรับข้อมูลการติดต่อของ นางสาว วาทินี และ นาย พงศ์ธนิต ก็ตามนี้ครับ
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ผมได้ตรวจสอบข้อมูลมาให้แล้วนะครับ สรุปคือ ถ้าจะสั่งซื้อเสื้อสกรีน "ทะลุแก๊ซ" สามารถสั่งซื้อจากคุณ เอ๋ วาทินี ส่องสว่าง ได้เลยครับ ยืนยันว่า มีตัวตนจริง มีหน้าร้านจริง และเปิดเผยข้อมูลละเอียดมากครับ น่าเชื่อถือครับผม

ก็ต้องบอกว่า ถือเป็นความคิดสร้างสรรค์ของทางเจ้าของร้าน ที่คิดลายสกรีนสวยๆ ที่เข้ากับ กลุ่มทะลุแก๊ซ ที่กำลังสร้างความเดือดร้อนให้กับคนในกรุงเทพฯ กันอยู่ทุกวี่วัน เข้าใจครับว่า มันเป็นช่องทางหากิน อะไรที่กอบโกยเงินได้ก็ต้องทำใช่มั้ยครับ? เพราะทางเจ้าของร้านเค้าอาจจะเชื่อว่าการทำธุรกิจในสมัยนี้ถ้าเราต้องการที่จะรวย เราต้องไม่สนใจเรื่อง ศีลธรรม และ จริยธรรมอันดีงามในการทำธุรกิจ อะไรที่กอบโกยได้ คว้าไว้ได้ ต้องรีบทำ อย่างเช่นการทำเสื้อให้กลุ่มที่กำลังทำผิดกฎหมายบ้านเมืองอยู่ ณ ขณะนี้ ได้เอาไปใส่กัน เป็นการช่วยกันสร้างแบรนด์ สนับสนุนให้คนทำผิดกฎหมาย ก็ขอให้ทางคุณเอ๋ และทางร้านประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจด้านนี้ กับคนกลุ่มนี้นะครับ สู้ๆ ครับผม

ทางร้านอาจจะปฏิเสธความรับผิดชอบได้ อาจจะบอกว่า ก็แค่ทำเสื้อ ไม่ได้ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับใคร แต่รู้หรือไม่ว่า กลุ่มทะลุแก๊ซ ทำให้คนที่อยู่แถวนั้นเดือดร้อนมากแค่ไหน กระทบเป็นวงกว้างแค่ไหน ทำคนบาดเจ็บไปแล้วกี่คน คุณไม่ใช่ญาติพี่น้องของคนที่บาดเจ็บ คุณไม่ได้ใช้ชีวิตโดยสัญจรผ่านเส้นทางนี้ คุณก็ไม่เดือดร้อนอะไรนี่ แถมคุณยังมองว่า นี่คือช่องทางในการทำมาหากินได้ หาลูกค้าได้ง่าย ก็ทำไปครับ คนทั่วประเทศเค้าก็จะได้เห็นว่า ร้านคุณมีหลักในการดำเนินธุรกิจอย่างไร ผมก็จะช่วยโปรโมทให้ครับ

ถ้าหน่วยงานเจ้าหน้าที่ความมั่นคง ตำรวจเมืองราชบุรี อยากได้เสื้อฟุตบอล เสื้อทีมงานตำรวจ ก็ลองแวะไปพูดคุยกับทางคุณเอ๋เค้าได้นะครับ หรือ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ถ้าจะติดต่อสอบถามเรื่องการยื่นบัญชีภาษีประจำปีของทางร้าน ว่าได้จดทะเบียนพาณิชย์ถูกต้องและยื่นบัญชีรายได้ถูกต้องหรือไม่ ก็น่าจะเป็นการดีนะครับ เพราะผมคาดว่า ร้านนี้น่าจะดังติดระดับท็อปของประเทศในเร็วๆ นี้แล้วล่ะ คนทำดีเราก็ต้องสนับสนุน จริงมั้ยครับ?

Popular posts from this blog

สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ เปิดศึกไล่ล่า พี่ทัก นักสืบเอกชน จนต้องขอยุติบทบาท นักสืบพิฆาตสามนิ้ว

นี่จะเป็นบทความสุดท้ายที่ผมจะเขียนบอกลาแฟนคลับทุกท่าน เพราะหลังจากที่ผมได้เขียนบทความเปิดโปง “สายลับผู้ที่จาบจ้วงสถาบัน” ของ สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ ออกไปก่อนหน้านี้แล้ว 2 บทความ (เดี๋ยวผมแปะลิ้งเอาไว้ที่ใต้นี้ให้ดูถ้าใครสนใจอยากรู้ที่มาที่ไปของเรื่องนี้ ว่าทำไมพี่ทักต้องยุติบทบาทด้วย) สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ผมได้รับแจ้งจากทั้งนักข่าวที่เป็นรุ่นน้อง และ ข้าราชการที่อยู่หน่วยความมั่นคง ส่งข้อความมาบอกเล่าว่า ให้ระวังตัว เนื่องจากตอนนี้ สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ เปิดศึกไล่ล่า พี่ทัก นักสืบเอกชน อย่างเต็มรูปแบบ หมายหัวเอาไว้ ว่าจะจับตัวให้ได้ และจะเล่นงานให้ได้ ก็แปลกนะครับ แทนที่จะตั้งคณะกรรมการสอบสวน เอาผิดลูกน้องตัวเอง แต่กลับหันเป้ามาล็อคที่คน “แฉ” เรื่องนี้ และจ้องจะตามล่าตัว จะเล่นงานให้ได้ ก็แปลกดีนะครับ “ข้า-ราช-การ” หน่วยนี้ บทความแรก ที่ผมเขียน แฉสายลับผู้ที่จาบจ้วงสถาบัน บทความที่สอง ที่ผมเขียน ถามหาความรับผิดชอบจากหน่วยต้นสังกัดของสายลับคนนั้น  สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ เปิดศึกไล่ล่า พี่ทัก นักสืบเอกชน จนทำให้พี่ทักต้องประกาศยุติบทบาท อันที่จริงแล้ว การติดต่อกับผมนั้น ทำได้ง่

เปิดเผย “โต้ง สายลับที่มีใจสามนิ้ว” เด็กของ สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ผมได้เขียนบทความ นักสืบ แฉ "สายลับ" ของหน่วยข่าวแฝงตัวในม็อบสามนิ้ว "หนอน" กลายเป็น "เกลือ" ไปแล้วนั้น มีแฟนคลับหลายคนที่เป็นข้าราชการสอบถามเข้ามาว่า บุคคลดังกล่าว สังกัดอยู่ในหน่วยงานใด เพราะไม่พอใจกับการเสียดสีสถาบันของ โต้ง เป็นอย่างมาก ซึ่งผมเองก็เกรงว่าเพื่อนผมที่เป็นคนให้ข้อมูลจะได้รับความเดือดร้อนไปด้วยหรือไม่ เนื่องจากอยู่หน่วยงานเดียวกันกับโต้ง จึงไม่ได้เปิดเผยชื่อของหน่วยงานนั้นตั้งแต่แรก แต่หลังจากที่ผมได้คุยกับเพื่อนเพิ่มเติมหลังจากที่เอาบทความลงไป เพื่อนผมบอกว่า ควรจะเปิดเผยชื่อหน่วยงานไปเลย เพราะหน่วยงานนี้ มักจะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับความผิดของลูกน้อง และหัวหน้าแผนกส่วนใหญ่ก็ชอบเอาดีเข้าตัว บางคนก็มีใจเป็น “สามนิ้ว” ไม่ต่างจาก โต้ง ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมาก ผมก็เพิ่งรู้ว่ามีแบบนี้ในหน่วยงานราชการด้วย หากหน่วยงานความมั่งคงทางด้านการข่าว กลับมีคนที่มีใจสามนิ้ว และไม่เอาสถาบันกษัตริย์ อยู่ในหน่วยงานนี้ รับเงินเดือนหลวง แต่ทรยศหลวง มันทุเรศเกินไปนะครับ เปิดเผย โต้ง สายลับที่มีใจสามนิ้ว ลูกรักของ สำนักงานข่าวกรอ

"เฮียณุ คนไม่กลัวเมีย" โดนอดีตเด็กในเครือ ต่อยหน้า เจ็บทั้งเฮียณุ เจ็บทั้งเมีย คนที่หาเรื่องนำทีมโดย ภูมิ หัวลำโพง

เมื่อคืนนี้ มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น นั่นคือ อยู่ๆ "ภูมิ หัวลำโพง" หรือ นายศศลักษณ์ สุขเจริญ ยกพวกมาหารุมยำ เฮียณุ ถึงที่ร้าน ที่ดินแดง (ปกติเฮียณุ แกมาทุกวันอยู่แล้ว) ซึ่งจากในคลิปไลฟ์สดของ "เฮียณุ คนไม่กลัวเมีย" เราจะเห็นได้ว่า มีผู้ชายตัวอ้วนๆ ใหญ่ๆ คนนึง เข้ามาสาวหมัดใส่เฮียณุ (ซึ่งภรรยาเอาตัวบังเฮียณุไว้อยู่) โดยชายคนดังกล่าวสาวหมัดไม่ยั้ง โดนทั้งเฮียณุ โดนทั้งเมีย คนที่ต่อยก็พูดอย่างเดียวว่า "ด่าแม่กูใช่มั้ย" "ด่าแม่กูเหรอ" แล้วก็รัวหมัดไปเรื่อยๆ ท่ามกลางเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจและหวาดกลัวของคนที่อยู่ตรงนั้น คนอื่นๆ ก็ไม่สามารถเข้าไปห้าม หรือ เข้าไปช่วยเฮียณุได้ เพราะมีชายฉกรรจ์ที่มากับกลุ่มของ ภูมิ หัวลำโพง มาชี้หน้าห้ามเอาไว้ ทำตาขมึงและบอกเลยว่า อย่ามายุ่ง เรื่องราวมันมีที่มาที่ไปอย่างไร? ทำไม "เฮียณุ คนไม่กลัวเมีย" ถึงโดนพวกของ ภูมิ หัวลำโพง เล่นงาน?  เรื่องของเรื่อง มันเป็นแบบนี้ครับ คนที่ต่อย "เฮียณุ คนไม่กลัวเมีย" ที่อ้วนๆ ตัวใหญ่ๆ คนนั้นชื่อ "เอก" มันเคยอยู่กับ "เฮียณุ คนไม่กลัวเมีย&q