Skip to main content

ปมฉาว "ม่อน อาชีวะ" คนสนิทว่าที่ สก. มีนบุรี พรรคก้าวไกล โดนคนร้ายทำรถเสียหาย จากศัตรูทางการเมือง หรือ ปมชู้สาว

หลังจากที่ "ม่อน อาชีวะ" ลงมาเล่นการเมืองอย่างเต็มตัว โดยการเปิดตัวเป็นทีมงานของ ว่าที่ผู้สมัคร สก.เขตมีนบุรี พรรคก้าวไกล อย่าง "ดวงพร สุขุมพันธุ์พงศ์ (น้อง)" ที่ลงพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง และช่วงนี้ก็ค่อนข้างจะลงพื้นที่หนักกว่าแต่ก่อน คงเป็นเพราะใกล้จะถึงการเลือกตั้ง สก. ในเขตพื้นที่ กทม. เข้ามาทุกที ในขณะเดียวกัน "ม่อน อาชีวะ" เอง ก็ลงม็อบทำหน้าที่เป็นแกนนำของกลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชน มีเด็กในเครือข่ายที่เป็นเด็กอาชีวะหัวรุนแรงอยู่ในมือเพียบ เรียกได้ว่า เล่นทั้ง "มนต์" เล่นทั้ง "คาถา" ครบชุด ทั้งเป็นหัวหน้ากลุ่มการ์ด เป็นแกนนำม็อบ แล้วยังเป็นคนสนิทว่าที่ผู้สมัคร สก. เขตมีนบุรี พรรคก้าวไกลอีก เรียกได้ว่า เดินเต็มตัวเพื่อก้าวเป็นผู้มีบารมีทางการเมืองอย่างเต็มขั้น แต่ประเด็นที่เกิดขึ้นล่าสุด ดันไม่ใช่เรื่องพวกนี้

เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 64 "ม่อน อาชีวะ" ได้โพสต์ภาพรถยนต์ส่วนตัวได้รับความเสียหาย คาดว่าน่าจะมาจาก น้ำมันเบรค ทำให้สีรถเสียหาย รวมทั้งมีรอยทุบที่หน้ากระจกรถยนต์คันดังกล่าว โดย "ม่อน อาชีวะ" ไม่ได้ระบุว่าเป็นฝีมือของใคร แต่ได้โพสต์สื่อความหมายว่า เป็นเรื่องที่เกิดจากการที่ตนเองไปร่วมม็อบ ทำให้หลายคนเข้าใจไปได้ว่า การที่รถยนต์คันนี้ของ "ม่อน อาชีวะ" ได้รับความเสียหายนั้น อาจจะเป็นฝีมือจากฝั่งตรงข้ามที่ไม่พอใจกับการเข้าร่วมม็อบของ "ม่อน อาชีวะ"

"ม่อน อาชีวะ" โพสต์ภาพลงในเฟสบุ๊ค เพื่อบอกให้แฟนคลับรู้ว่า รถยนต์ของตัวเองได้รับความเสียหายจากผู้ไม่หวังดี

สาเหตุที่ทำให้รถยนต์ของ "ม่อน อาชีวะ" ถูกทำให้เสียหายแบบนี้ มาจาก การเมือง หรือ ปมชู้สาว กันแน่?

สิ่งที่ผมรู้สึกผิดสังเกตก็คือ

1. รถยนต์คันดังกล่าว จอดที่ไหน? ถ้าเป็นจากในภาพ จะเห็นว่า รถก็จอดอยู่ในเขตบ้าน แล้วคนร้ายเข้ามาทำให้รถเสียหายได้ยังไง? คือ ถ้าทำก็ต้องทำแบบว่า มาเดินเอาน้ำมันเบรคราดไปรอบๆ รถอย่างสบายใจ จากนั้นก็ทุบที่กระจกรถ ซึ่งมันต้องส่งเสียงดังอยู่แล้ว ไม่มีใครในบ้านได้ยินเลยหรือ? แล้วคนร้ายย่ามใจเข้าไปในบ้าน แล้วเดินราดน้ำมันเบรคใส่รถแบบชิลๆ แล้วค่อยทุบรถเนี่ยนะ มันง่ายแบบนั้นเลยหรือ?

ในภาพที่ "ม่อน อาชีวะ" เอามาโพสต์ให้ดู ก็เห็นเป็นรถยนต์จอดอยู่ในโรงรถของตัวเอง ก็มิดชิดดีนะ แล้วใครที่เข้ามาทำให้เสียหายได้ขนาดนี้ โดยที่คนในบ้านหรือข้างบ้าน ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยหรือ?

2. "ม่อน อาชีวะ" ไม่กล้าฟันธงไปตรงๆ ว่า ใครเป็นคนทำ พูดเป็นนัยยะเพียงแต่ว่า ถึงรถจะพังใจก็ยังสู้ ไปม็อบได้เหมือนเดิม ซึ่งมันไม่ชัดเจนว่า ใครเป็นคนทำ เป็นไปได้หรือไม่ที่ "ม่อน อาชีวะ" รู้อยู่แล้วว่าใครที่เป็นคนทำให้รถยนต์เสียหาย แต่ไม่คิดจะเอาเรื่อง และใช้การที่รถยนต์ได้รับความเสียหายแบบนี้ มาเป็นประโยชน์เรียกคะแนนสงสารจากแฟนคลับ?

"ม่อน อาชีวะ" โพสต์เกี่ยวกับรถยนต์ที่ได้รับความเสียหาย แต่ไม่ได้ฟันธงว่า ใครเป็นคนทำ หรือฝ่ายไหนทำ?

ถ้าดูจากพฤติกรรมของ "ม่อน อาชีวะ" ที่ค่อนข้างจะเจ้าชู้ ซึ่งผมคงไม่ต้องอธิบายความหมายอะไรเพิ่มเติมของคำว่า "เจ้าชู้" นะครับ นั่นก็ทำให้เรามองไปได้อีกมุมนึงว่า การที่รถยนต์ของ "ม่อน อาชีวะ" เสียหายเพราะโดนกระทำแบบนี้ ซึ่งแถวบ้านผมเค้าเรียกว่า "สั่งสอน" หรือ "แกล้ง" ไม่ได้เกิดจากปัญหาทางการเมืองแน่ๆ ส่วนใหญ่การกระทำแบบนี้ จะมาจาก "ปัญหาชู้สาว" ในข่าวเราก็เคยเห็นที่มีการไปเขียนรถของคนที่เป็นชู้ หรือเขียนด่าบนตัวรถของแฟนที่มีชู้ หรือเอาน้ำมันเบรคไปราดที่รถ เราก็เคยเห็นในข่าวกันมาแล้ว เป็นไปได้มั้ยว่า กรณีนี้ของ "ม่อน อาชีวะ" ก็เป็นเรื่องชู้สาวเช่นเดียวกัน

ภาพนี้คงไม่ต้องบรรยายอะไรกันเยอะ ดูที่มือ และสายตาของ "ม่อน อาชีวะ" ก็น่าจะเข้าใจทุกอย่างอยู่แล้ว

ในช่วงหลังๆ มา "ม่อน อาชีวะ" ค่อนข้างที่จะใกล้ชิดกับ "น้อง" ดวงพร สุขุมพันธุ์พงศ์ มากกว่าปกติ ผมเองก็ไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง แต่ได้ยินแว่วๆ มาว่า สนิทกันมากทีเดียว แต่ก็พอจะเข้าใจได้ว่า ใกล้เลือกตั้งแล้ว ก็ต้องไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย แต่คนใกล้ตัวของ "ม่อน อาชีวะ" ที่เคยสนิทสนม หรือ มีสัมพันธ์ด้วย เค้าจะเข้าใจตามนี้หรือเปล่า อันนี้ผมไม่ทราบ เพราะภาพที่ออกมาแต่ละภาพ มันใกล้ชิดกันจนทำให้คนที่ "รักม่อน" รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ได้เช่นกัน

ภาพล่าสุดที่ "ม่อน อาชีวะ" ถ่ายรูปกับ "น้อง" ดวงพร สุขุมพันธ์พงศ์ แบบใกล้ชิดชนิด Exclusive เลยทีเดียว

ดังนั้น ประเด็นที่รถยนต์ของ "ม่อน อาชีวะ" เสียหายในครั้งนี้ อย่าเพิ่งเชื่อว่า เป็นสาเหตุมาจากการที่ "ม่อน อาชีวะ" ไปม็อบ เพราะเอาจริงๆ นะครับ พวกฝั่งตรงข้ามที่ไม่ชอบให้ "ม่อน อาชีวะ" ไปม็อบ (ซึ่งในที่นี้เค้าก็คงจะหมายถึง รัฐบาล ที่ม่อนออกไปนำม็อบไล่นี่แหละ) ก็ไม่จำเป็นต้องมาทำอะไรแบบนี้เลย แค่คดีความที่ "ม่อน อาชีวะ" โดนหมายนี่ก็อ่วมแล้ว จะมาทำแบบนี้ทำไม ไม่มีประโยชน์ แต่ที่ผมสงสัยก็คือ..

นี่อาจจะเป็น ปัญหาที่เกิดขึ้นจาก "ปมชู้สาว" ก็เป็นได้ เราไม่ควรตัดประเด็นนี้ทิ้งไปนะครับ จริงมั้ย?

Popular posts from this blog

สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ เปิดศึกไล่ล่า พี่ทัก นักสืบเอกชน จนต้องขอยุติบทบาท นักสืบพิฆาตสามนิ้ว

นี่จะเป็นบทความสุดท้ายที่ผมจะเขียนบอกลาแฟนคลับทุกท่าน เพราะหลังจากที่ผมได้เขียนบทความเปิดโปง “สายลับผู้ที่จาบจ้วงสถาบัน” ของ สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ ออกไปก่อนหน้านี้แล้ว 2 บทความ (เดี๋ยวผมแปะลิ้งเอาไว้ที่ใต้นี้ให้ดูถ้าใครสนใจอยากรู้ที่มาที่ไปของเรื่องนี้ ว่าทำไมพี่ทักต้องยุติบทบาทด้วย) สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ผมได้รับแจ้งจากทั้งนักข่าวที่เป็นรุ่นน้อง และ ข้าราชการที่อยู่หน่วยความมั่นคง ส่งข้อความมาบอกเล่าว่า ให้ระวังตัว เนื่องจากตอนนี้ สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ เปิดศึกไล่ล่า พี่ทัก นักสืบเอกชน อย่างเต็มรูปแบบ หมายหัวเอาไว้ ว่าจะจับตัวให้ได้ และจะเล่นงานให้ได้ ก็แปลกนะครับ แทนที่จะตั้งคณะกรรมการสอบสวน เอาผิดลูกน้องตัวเอง แต่กลับหันเป้ามาล็อคที่คน “แฉ” เรื่องนี้ และจ้องจะตามล่าตัว จะเล่นงานให้ได้ ก็แปลกดีนะครับ “ข้า-ราช-การ” หน่วยนี้ บทความแรก ที่ผมเขียน แฉสายลับผู้ที่จาบจ้วงสถาบัน บทความที่สอง ที่ผมเขียน ถามหาความรับผิดชอบจากหน่วยต้นสังกัดของสายลับคนนั้น  สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ เปิดศึกไล่ล่า พี่ทัก นักสืบเอกชน จนทำให้พี่ทักต้องประกาศยุติบทบาท อันที่จริงแล้ว การติดต่อกับผมนั้น ทำไ...

นักสืบ แฉ "สายลับ" ของหน่วยข่าวแฝงตัวในม็อบสามนิ้ว "หนอน" กลายเป็น "เกลือ"

หลายคนคงจะได้เห็นภาพที่เอาผมเอาลงไปก่อนหน้านี้ ว่ามีคนมาโวยวาย กล่าวหาว่าผมเอาภาพที่เค้าถ่ายไปใช้ในเฟส/ทวิต โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งจริงครับ ถูกต้องตามที่เค้ากล่าวเลย แต่ๆๆ ใจเย็นๆ ครับ มันมีที่มาที่ไป ผมจะขอเล่าย้อนความตามลำดับซะหน่อย จะได้ให้ความรู้เรื่องการสืบสวนทางออนไลน์กับแฟนคลับทุกท่าน ( วิชา นักสืบ 101 ) จะได้เข้าใจว่า จริงๆ แล้ว ทุกคนก็ทำอย่างผมได้ มันไม่ยากเลย ไม่จำเป็นต้องใช้อะไรพิเศษ ก็สามารถพิสูจน์ตัวตนของบุคคลในโลกออนไลนได้ เพียงแต่ครั้งนี้ ผมดันไปจับปลาตัวใหญ่ได้ด้วยเบ็ดตกปลาไม้ไผ่อันเล็กๆ แค่อันเดียว อาจจะเรียกว่า ใช้แค่เบ็ดเล็กๆ แต่ตกได้ปลาวาฬซะงั้น มาดูกันครับว่า มันเป็นยังไง เรื่องนี้ยาวนิดนึง แต่รับรองว่า อ่านสนุก และได้ความรู้แน่ๆ ครับ ในช่วงที่ผ่านมาผมกำลังตามสืบพวก ตากล้อง/ช่างภาพ(เถื่อน) ทั้งหลาย ทั้งตากล้องภาพนิ่ง ทั้งพวกไลฟ์สด ที่แอบแฝงตัวมาอยู่ในม็อบสามนิ้ว แล้วถ่ายภาพหากิน แต่การจะหาตัวตนของคนพวกนี้ว่าเค้าเป็นใคร มันยากครับ แค่เจอหน้า เห็นหน้า มันพิสูจน์ตัวได้ยาก ยิ่งใส่หน้ากากด้วยแล้ว ยิ่งยากไปกันใหญ่ ดังนั้น เราก็ต้องวางเบ็ดใส่เหยื่อวางไว้ครับ เทคนิคก็คือ...

กลุ่มสามนิ้ว บ้านโป่ง เข้ามาร่วมก่อเหตุ 19 ก.ย. 64 แต่ไปไม่รอด โดนจับจนได้

เมื่อวานนี้ 19 ก.ย. 64 ท่ามกลางกลุ่มหมอกควันจากแก๊สน้ำตาที่นางเลิ้ง ขณะที่ผมอยู่ท่ามกลางวัยรุ่นสามนิ้วที่กำลังยิงพลุยิงประทัดใส่ตำรวจ คฝ. อยู่นั้น ก็พบบุคคลแปลกๆ 2 คน ที่มันดูแล้วผิดปกติอย่างชัดเจน กลุ่มคนพวกนี้ไม่ใช่เด็กวัยรุ่น และหน้าตาท่าทางไม่ใช่ “ทะลุแก๊ส” ตามปกติที่ผมเคยเห็น ในท่ามกลางหมอกควันนั้น ผมไม่สามารถบอกได้ว่าใครเป็นใคร เพราะพวกเขาใส่หน้ากาก แต่ที่เห็นผิดปกติชัดๆ ก็คือ รูปร่างและท่าทาง มันไม่ใช่เด็กวัยรุ่นแถวนี้ที่ผมคุ้นตาแน่นอน เมื่อเดินออกมาพ้นจากระยะแก๊สน้ำตา พอคนพวกนี้ถอดหน้ากากออก ผมก็นึกหน้าพวกเขาได้ทันที เพราะคนพวกนี้คือ ตัวแสบจาก กลุ่มสามนิ้ว บ้านโป่ง หรือที่เรียกกันเต็มๆ ว่า “ลูกบ้านโป่งไม่อินเผด็จการ” กลุ่มนี้ญาติของแฟนผมรู้จักเป็นอย่างดี เคยเอารูปและเรื่องราวมาเล่าให้ฟังในช่วงสัปดาห์ที่แล้วที่ผมกำลังทำวิจัยเรื่องขบวนการสามนิ้วอยู่ ตอนแรกผมก็ไม่สนใจสักเท่าไหร่ เพราะไม่ได้อยู่แถวนี้ แต่จำได้ว่า ญาติของแฟนผมเค้าเคยบอกว่า คนพวกนี้มักจะขับรถขึ้นมาร่วมม็อบใหญ่ๆ ด้วยเสมอ ก็แน่นอนล่ะ ไม่ได้จ่ายค่าน้ำมันเอง แต่มาร่วมเพื่อให้มีภาพการเข้าร่วมกิจกรรม ได้มันส์ด้วย (มันส์ต...