Skip to main content

ข้อสังเกตเกี่ยวกับ การสร้างอาคารแห่งใหม่ในสถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย

ในมุมข่าวเล็กๆ ข่าวหนึ่งของวันนี้ ก็คือ ข่าวการสร้างอาคารแห่งใหม่ ในพื้นที่ของ สถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ซึ่งถ้าดูผิวเผินแล้วก็เหมือนเป็นการก่อสร้างอาคารใหม่ ในพื้นที่ของสถานทูตสหรัฐฯ เอง เป็นเรื่องธรรมดาๆ และดูเป็นการลงทุนที่จะนำเม็ดเงินเข้าสู่ประเทศไทยซะด้วย ไม่มีอะไรที่น่าจะต้องกังวล หรือ แปลกใจอะไร ก็เขามาอยู่ในเมืองไทย สร้างตึกในที่ดินของเขาที่ถือว่า เป็นดินแดนของสหรัฐฯ ที่ทางไทยได้ยกให้ ก็ไม่มีอะไรเสียหายนี่นา ไม่เห็นว่า คนไทยเราจะต้องกังวลอะไรกับตรงนี้เลย

ข้อสังเกตเกี่ยวกับ การสร้างอาคารแห่งใหม่ในสถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย

 

บางคนมองในแง่ดี ว่าการสร้างอาคารแบบนี้ของทางสถานทูตสหรัฐฯ ยิ่งเป็นการทำให้ไทยมีความเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้มากขึ้น ดีเลิศประเสริฐศรีเลยล่ะ หรือบางคนอาจจะมองว่า นี่อาจจะเป็นแนวทางที่ช่วยประหยัดงบประมาณของสหรัฐฯ ที่จะได้เอาหน่วยงานต่างๆ ที่กระจัดกระจายกันไปเช่าอาคารสถานที่ต่างๆ มารวมไว้ที่อาคารเดียว ประหยัดงบประมาณของสหรัฐฯ ลงไปได้เยอะ อันนี้ก็ฟังได้เช่นกัน สมเหตุสมผล

แต่สิ่งที่ผมสังเกตก็คือ สถาปัตยกรรมของอาคารหลังนี้ มันดูแล้วไม่ค่อยจะโอเคสักเท่าไหร่ อันนี้ก็ต้องบอกตรงๆ ว่า เป็นความรู้สึกส่วนตัวของผมนะครับ คือ มันดูมั่นคง แข็งแกร่ง เหมือนที่มั่นหรือป้อมปราการ (Fortress) มากเกินไป มันดูใหญ่โตเกินไปสำหรับสถานทูตแห่งหนึ่งที่มาอยู่ในประเทศๆ หนึ่ง คือ ต้องใช้สถานที่ที่ใหญ่และรองรับจำนวนคนทำงานมากขนาดนั้นเลยเหรอ? ที่สำคัญที่ผมสะดุดนิดนึงก็คือ งบประมาณในการก่อสร้างที่สูงถึง 625 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 20,000 ล้านบาทไทย ผมว่า มันเยอะมากไปมั้ย? กับแค่อาคารธรรมดาๆ หลังนึงนะครับ เมื่อลองเปรียบเทียบกับ รัฐสภา หรือ งบก่อสร้าง "สัปปายะสภาสถาน" ถ้าเราอ้างอิงตามเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของรัฐสภา จะพบว่า อยู่ราวๆ 11,726 ล้านบาท ต่อให้รวมค่าปรับ รวมดอกเบี้ย รวมอะไรเข้าไป อ่ะ..ผมให้เป็น 20,000 ล้านบาทเลย ราคานี้สำหรับงบก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ของไทย คำถามคือ งบประมาณในการสร้างอาคารแห่งใหม่ในสถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย มันเท่ากับ งบประมาณในการก่อสร้าง สัปปายะสภาสถาน เลยอย่างนั้นหรือ? ทำไมงบประมาณก่อสร้างอาคารเดียวที่ดูไม่ได้ใหญ่โตอะไร ทำไมถึงแพงมาก? มีการก่อสร้างอะไรที่ต้องใช้งบพิเศษหรือไม่?

ถ้าเป็นในสมัยก่อน ผมคงจะรู้สึกดีใจที่ได้เห็นข่าวนี้ แต่หลังจากที่ได้เห็นเหตุการณ์ม็อบในฮ่องกง และเห็นภาพของ จนท. สถานทูตสหรัฐฯ กับแกนนำของม็อบสามนิ้ว และทัศนคติจากทูตสหรัฐฯ เกี่ยวกับม็อบสามนิ้ว มันทำให้ผมเกิดความกังวลใจพอสมควรเกี่ยวกับการสร้างอาคารหลังนี้ในพื้นที่สถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย

เหรียญมันมีสองด้านเสมอ คนเราก็มีหลายเหลี่ยมหลายมุม คนไทยกับคนอเมริกันแตกต่างกัน ผมเคยไปศึกษาปริญญาตรีอยู่ที่สหรัฐ 4 ปีกว่าๆ ได้ใช้ชีวิตร่วมกับคนอเมริกันแบบตลอด 24 ชม. ยาวนานตลอดระยะเวลาที่ไปอยู่ที่นั่น ทั้งเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย ได้เรียนรู้นิสัยใจคอของคนอเมริกันมาเป็นอย่างดีเลยล่ะ และพบว่า ความจริงมันไม่ได้สวยงามอย่างที่เราคาดฝันเอาไว้ สำหรับ American Business ไม่มีคำว่า "Give it for free" อย่างแน่นอน เค้าต้องได้มากกว่าที่จะเสียเสมอ นั่นคือหลักปรัชญาในการบริหารกิจการต่างๆ ของคนอเมริกัน ดังนั้น ในแง่มุมนี้ ผมรู้สึกว่า มันคงจะต้องมีอะไรตามมาหลังจากนี้อย่างแน่นอน ก็รอดูกันต่อไปละกันนะครับ ผมไม่อยากจะทำให้ทุกคนต้องมาวิตกกังวลตามผม เอาแค่ว่า ณ เวลานี้ กลิ่นมันไม่ค่อยจะดี แค่นั้นก็พอ

ทั้งหมดนี้ ก็ขอให้สิ่งที่ผมกังวล เป็นเพียงแค่การ Paranoid ไปเอง ของผมเพียงคนเดียว ขออย่าให้สิ่งที่ผมเป็นกังวลนั้น เกิดขึ้นจริงๆ เลย

Popular posts from this blog

สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ เปิดศึกไล่ล่า พี่ทัก นักสืบเอกชน จนต้องขอยุติบทบาท นักสืบพิฆาตสามนิ้ว

นี่จะเป็นบทความสุดท้ายที่ผมจะเขียนบอกลาแฟนคลับทุกท่าน เพราะหลังจากที่ผมได้เขียนบทความเปิดโปง “สายลับผู้ที่จาบจ้วงสถาบัน” ของ สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ ออกไปก่อนหน้านี้แล้ว 2 บทความ (เดี๋ยวผมแปะลิ้งเอาไว้ที่ใต้นี้ให้ดูถ้าใครสนใจอยากรู้ที่มาที่ไปของเรื่องนี้ ว่าทำไมพี่ทักต้องยุติบทบาทด้วย) สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ผมได้รับแจ้งจากทั้งนักข่าวที่เป็นรุ่นน้อง และ ข้าราชการที่อยู่หน่วยความมั่นคง ส่งข้อความมาบอกเล่าว่า ให้ระวังตัว เนื่องจากตอนนี้ สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ เปิดศึกไล่ล่า พี่ทัก นักสืบเอกชน อย่างเต็มรูปแบบ หมายหัวเอาไว้ ว่าจะจับตัวให้ได้ และจะเล่นงานให้ได้ ก็แปลกนะครับ แทนที่จะตั้งคณะกรรมการสอบสวน เอาผิดลูกน้องตัวเอง แต่กลับหันเป้ามาล็อคที่คน “แฉ” เรื่องนี้ และจ้องจะตามล่าตัว จะเล่นงานให้ได้ ก็แปลกดีนะครับ “ข้า-ราช-การ” หน่วยนี้ บทความแรก ที่ผมเขียน แฉสายลับผู้ที่จาบจ้วงสถาบัน บทความที่สอง ที่ผมเขียน ถามหาความรับผิดชอบจากหน่วยต้นสังกัดของสายลับคนนั้น  สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ เปิดศึกไล่ล่า พี่ทัก นักสืบเอกชน จนทำให้พี่ทักต้องประกาศยุติบทบาท อันที่จริงแล้ว การติดต่อกับผมนั้น ทำไ...

นักสืบ แฉ "สายลับ" ของหน่วยข่าวแฝงตัวในม็อบสามนิ้ว "หนอน" กลายเป็น "เกลือ"

หลายคนคงจะได้เห็นภาพที่เอาผมเอาลงไปก่อนหน้านี้ ว่ามีคนมาโวยวาย กล่าวหาว่าผมเอาภาพที่เค้าถ่ายไปใช้ในเฟส/ทวิต โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งจริงครับ ถูกต้องตามที่เค้ากล่าวเลย แต่ๆๆ ใจเย็นๆ ครับ มันมีที่มาที่ไป ผมจะขอเล่าย้อนความตามลำดับซะหน่อย จะได้ให้ความรู้เรื่องการสืบสวนทางออนไลน์กับแฟนคลับทุกท่าน ( วิชา นักสืบ 101 ) จะได้เข้าใจว่า จริงๆ แล้ว ทุกคนก็ทำอย่างผมได้ มันไม่ยากเลย ไม่จำเป็นต้องใช้อะไรพิเศษ ก็สามารถพิสูจน์ตัวตนของบุคคลในโลกออนไลนได้ เพียงแต่ครั้งนี้ ผมดันไปจับปลาตัวใหญ่ได้ด้วยเบ็ดตกปลาไม้ไผ่อันเล็กๆ แค่อันเดียว อาจจะเรียกว่า ใช้แค่เบ็ดเล็กๆ แต่ตกได้ปลาวาฬซะงั้น มาดูกันครับว่า มันเป็นยังไง เรื่องนี้ยาวนิดนึง แต่รับรองว่า อ่านสนุก และได้ความรู้แน่ๆ ครับ ในช่วงที่ผ่านมาผมกำลังตามสืบพวก ตากล้อง/ช่างภาพ(เถื่อน) ทั้งหลาย ทั้งตากล้องภาพนิ่ง ทั้งพวกไลฟ์สด ที่แอบแฝงตัวมาอยู่ในม็อบสามนิ้ว แล้วถ่ายภาพหากิน แต่การจะหาตัวตนของคนพวกนี้ว่าเค้าเป็นใคร มันยากครับ แค่เจอหน้า เห็นหน้า มันพิสูจน์ตัวได้ยาก ยิ่งใส่หน้ากากด้วยแล้ว ยิ่งยากไปกันใหญ่ ดังนั้น เราก็ต้องวางเบ็ดใส่เหยื่อวางไว้ครับ เทคนิคก็คือ...

กลุ่มสามนิ้ว บ้านโป่ง เข้ามาร่วมก่อเหตุ 19 ก.ย. 64 แต่ไปไม่รอด โดนจับจนได้

เมื่อวานนี้ 19 ก.ย. 64 ท่ามกลางกลุ่มหมอกควันจากแก๊สน้ำตาที่นางเลิ้ง ขณะที่ผมอยู่ท่ามกลางวัยรุ่นสามนิ้วที่กำลังยิงพลุยิงประทัดใส่ตำรวจ คฝ. อยู่นั้น ก็พบบุคคลแปลกๆ 2 คน ที่มันดูแล้วผิดปกติอย่างชัดเจน กลุ่มคนพวกนี้ไม่ใช่เด็กวัยรุ่น และหน้าตาท่าทางไม่ใช่ “ทะลุแก๊ส” ตามปกติที่ผมเคยเห็น ในท่ามกลางหมอกควันนั้น ผมไม่สามารถบอกได้ว่าใครเป็นใคร เพราะพวกเขาใส่หน้ากาก แต่ที่เห็นผิดปกติชัดๆ ก็คือ รูปร่างและท่าทาง มันไม่ใช่เด็กวัยรุ่นแถวนี้ที่ผมคุ้นตาแน่นอน เมื่อเดินออกมาพ้นจากระยะแก๊สน้ำตา พอคนพวกนี้ถอดหน้ากากออก ผมก็นึกหน้าพวกเขาได้ทันที เพราะคนพวกนี้คือ ตัวแสบจาก กลุ่มสามนิ้ว บ้านโป่ง หรือที่เรียกกันเต็มๆ ว่า “ลูกบ้านโป่งไม่อินเผด็จการ” กลุ่มนี้ญาติของแฟนผมรู้จักเป็นอย่างดี เคยเอารูปและเรื่องราวมาเล่าให้ฟังในช่วงสัปดาห์ที่แล้วที่ผมกำลังทำวิจัยเรื่องขบวนการสามนิ้วอยู่ ตอนแรกผมก็ไม่สนใจสักเท่าไหร่ เพราะไม่ได้อยู่แถวนี้ แต่จำได้ว่า ญาติของแฟนผมเค้าเคยบอกว่า คนพวกนี้มักจะขับรถขึ้นมาร่วมม็อบใหญ่ๆ ด้วยเสมอ ก็แน่นอนล่ะ ไม่ได้จ่ายค่าน้ำมันเอง แต่มาร่วมเพื่อให้มีภาพการเข้าร่วมกิจกรรม ได้มันส์ด้วย (มันส์ต...