หยุดดราม่า ตำรวจรวจสอบรถชน ผู้ชุมนุมม็อบดินแดง
สำหรับประเด็นเรื่องรถตำรวจชนผู้ชุมนุมเนี่ย มันไม่ควรจะเป็นประเด็นใหญ่โตอะไรนะครับ เพราะอะไรผมถึงพูดแบบนี้ เพราะเมื่อผมทำการย้อนภาพ และค่อยๆ เล่นภาพคลิปที่กำลังแพร่หลายอยู่ตอนนี้ ประกอบกับข้อเท็จจริงจากที่เกิดเหตุ ก็จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่า
1. รถตำรวจคันดังกล่าวถูกกลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่ตรงใต้ทางด่วน ก่อนจุดที่จะเกิดการชน ไล่ทุบตีมาก่อนแล้ว ทำให้คนขับต้องเหยียบเร่งเพื่อขับหนี เพราะมีหลายครั้งที่เราเห็นภาพตำรวจโดนผู้ชุมนุมลากตำรวจลงมากระทืบจากรถตำรวจ ซึ่งอาจจะทำให้ตำรวจที่โดนรุมกระทืบบาดเจ็บสาหัสได้ เมื่อเค้ากลัว เค้าก็ต้องเร่งเครื่องขับหนีอยู่แล้ว
2. ผู้ชุมนุมในภาพ วิ่งตัดหน้ารถตำรวจเอง อันนี้ชัดเจน ไม่ใช่ยืนอยู่แล้วตำรวจขับรถมาชน แต่เป็นเพราะวิ่งหนี (หรือพยายามวิ่งไล่ทุบรถตำรวจก็ไม่แน่ใจ) แต่ชัดเจนว่า วิ่งไปตัดหน้ารถแน่นอน Replay ภาพดูกี่ทีมันก็ชัดตามนั้น สังเกตง่ายๆ แทนที่จะวิ่งออกมาเกาะกลางถนนขวามือ กลับเลือกที่จะวิ่งไปกลางถนน ไปตัดหน้ารถตำรวจ ถ้าดูจากภาพ จะเห็นมอเตอร์ไซค์คันที่มาคู่กับคนที่โดนชน วิ่งออกด้านขวาเพื่อหลบ แต่คนที่โดนชน กลับวิ่งออกซ้ายไปกลางถนน เพื่อตัดหน้ารถตำรวจ
3. ได้ยินเสียงเบรค ก่อนรถจะชนมั้ยครับ? ถ้าตำรวจตั้งใจจะขับชนผู้ชุมนุม เค้าจะเหยียบเบรคทำไม และเป็นการเบรคที่แรงด้วยถึงมีเสียงล้อดังเอี๊ยดก่อนที่จะชน ถ้าหากเค้าขับมาเร็วและตั้งใจจะชนจริงๆ ก็ต้องไม่มีเสียงเบรค และต้องชนแรงกว่านี้แน่นอน คือ ถ้าหากรถพุ่งมาด้วยความเร็ว และไม่แตะเบรคเลย ตัวของผู้ชุมนุมที่ถูกชนจะต้องกระเด็นขึ้นไปบนหลังคาแล้วตกลงมาที่ด้านหลังรถ/ด้านข้างของรถอย่างแน่นอน แต่นี่เค้าเหยียบเบรคแล้วแต่รถมันมาเร็วเพราะขับหนีผู้ชุมนุมที่ใต้ทางด่วนไง มันเลยเบรคไม่ทัน (รถกระบะน้ำหนักเท่าไหร่? สภาพเบรคล้อหลังก็ไม่ใช่ดิสเบรค มันจะไปเบรคอยู่ขนาดนั้นได้ยังไง รถที่น้ำหนักตัวขนาดนี้ มันก็มีระยะเบรคของมันนะครับ) เลยกลายเป็นการชนด้วยแรงกระแทก ทำให้ตัวคนที่ถูกชน กระเด็นไปด้านหน้าและไม่ได้บาดเจ็บอะไรมากมาย ไปถามผู้เชี่ยวชาญคนไหนก็ได้ ถ้าไม่เบรคเลย สภาพคนถูกชนจะกระเด็นไปด้านหน้าแบบนี้มั้ย? ไม่มีทางแน่นอน
4. หลังจากชนเสร็จ คนที่ถูกชนก็ยังลุกขึ้นเดินได้ ไม่ได้ขาหักหรือนอนจมกองเลือดแต่อย่างใด มีสติ สามารถถามตอบได้รู้เรื่อง แล้วก็ถูกนำส่งโรงพยาบาล เพราะการชนไม่ได้แรงอย่างที่เราเข้าใจกันนะครับ มันคือ การพุ่งกระแทก ไม่ใช่ชนจนปลิวกระเด็นขึ้นไปบนฟ้า 2-3 เมตรอย่างที่จินตนาการกัน
อย่าดูคลิปและอ่านข้อมูลจากพวกที่มีอคติ พวกที่จิตใจมันต้องการสร้างความแตกแยก เอาดีเข้าตัว มองตัวเองทำถูกอยู่ฝ่ายเดียว แต่เราต้องมองอย่างเป็นกลางนะครับ ลองคิดตามผมแบบง่ายๆ เลยก็ได้ ว่า..
1. ตอนที่เกิดการชนขึ้น มันกี่โมงแล้ว คนที่โดนชน ไปวิ่งทำอะไรอยู่ตรงนั้น และตอนนั้น ทำไมไม่อยู่บ้าน??? ตามกฎหมายเค้าว่ายังไง?
2. ถ้าอ้างว่า คนที่โดนชนเป็นเยาวชนอายุ 14 งั้นถามว่า เยาวชนอายุ 14 ที่ดี ไปทำอะไรตรงนั้น ตอนนั้น นั่นมันเวลาเคอร์ฟิว พ่อแม่ไปไหน?
3. ตรงที่โดนชน คือ ถนนใช่หรือไม่? ตำรวจขับรถไปชนคนที่เดินอยู่บนสะพานลอยหรือเปล่า? หรือจุดที่ชนเป็นทางม้าลายมั้ย? ถ้าคุณขับรถอยู่ แล้วมีคนโดดมาตัดหน้ารถ จนคุณเบรคไม่ทันต้องชนเข้าไปเต็มๆ แต่พอชนเสร็จโดนเค้ากล่าวหา ใส่ร้ายว่า คุณตั้งใจขับรถชนเค้า คุณจะรู้สึกอย่างไร? มันคือการใส่ร้ายกันใช่มั้ย?
นี่คือเรื่องจริง ไม่ใช่ละคร ทุกอย่างมีเหตุและผลในตัวมันเอง เราต้องคิดแบบมองที่ต้นเหตุ ไม่ใช่มองที่ปลายเหตุ และต้องไม่เลือกที่จะรับฟังข้างเดียวว่า ตำรวจขับรถชนผู้ชุมนุม เพราะนั่นมันปลายเหตุ ต้นเหตุล่ะ ได้มองกันหรือยัง?
และที่ผมบอกไปมันก็เกิดขึ้นจริงมั้ยครับ ภาพพวกนี้ ถูกส่งต่อกลายเป็นประเด็นที่สร้างความเข้าใจผิดกับคนในสังคมหมู่มากทันที ก็ภาพนี้มันมาจากพวกสื่อปลอมที่ไลฟ์สดนี่แหละ ผมถึงบอกไงว่า ให้ตำรวจเพ่งเล็ง จับพวกไลฟ์สดก่อนเป็นอันดับแรก ต่อมาก็พวกนักข่าว จับให้หมด นั่นมันกี่โมงกี่ยามแล้ว เสรีภาพ กับ กฎหมาย ต้องแยกแยะกัน นั่นมันเวลาเคอร์ฟิว ทำไมปล่อยให้พวกนักข่าวจอมปลอมที่อยู่ฝั่งผู้ชุมนุม ไลฟ์สดกันได้สบายใจ นั่นไม่ใช่เสรีภาพ แต่การที่มันมาไลฟ์สดในเวลาเคอร์ฟิว มันผิดกฎหมายอยู่แล้ว ถ้าไล่จับมันไปให้หมดซะ ปัญหาการบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ก็จะไม่เกิดขึ้น ควรจะแก้ไขกันหน่อยมั้ยครับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ