Skip to main content

รถยนต์ที่ใช้ขนอาวุธ/อุปกรณ์ให้กลุ่มการ์ด DEMO เป็นของใคร

เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 64 มีการชุมนุมของกลุ่มม็อบที่แยกดินแดงในช่วงเวลาค่ำจนถึงกลางดึก ในขณะที่มีการชุมนุมและผู้ชุมนุมก่อเหตุสร้างความรุนแรง ยั่วยุ และขว้างปา ยิงประทัด โจมตีใส่ทางตำรวจชุด คฝ. ผมได้พบว่า มีรถยนต์คันหนึ่งขับเข้ามาจอดและเปิดท้ายเพื่อแจกจ่ายหน้ากากป้องกันแก๊สและอาวุธต่างๆ ให้กับกลุ่มการ์ด DEMO จากนั้น กลุ่มการ์ด DEMO ก็ได้เดินเข้าไปที่แนวหน้าและทำการโจมตีใส่ทางตำรวจด้วยสิ่งต่างๆ ที่มี แต่ประเด็นไม่จบเพียงแค่นั้น ในวันต่อมาหลังจากที่มีการเปิดเผยเรื่องนี้ ก็ได้มีการออกมาดิ้นเพื่อแก้ต่างของทางกลุ่ม DEMO คำถามก็คือ ทำไมต้องออกมาดิ้น และ รถยนต์คันดังกล่าวเป็นของใคร มาครับ ผมจะสรุปให้ทุกท่านได้เข้าใจไปทีละเหตุการณ์

 รถยนต์ที่ใช้ขนอาวุธ/อุปกรณ์ให้กลุ่มการ์ด DEMO เป็นของใคร

เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 64 เวลาประมาณ 19.20 น. ผมได้พบเห็นรถยนต์ Honda City สีดำ หมายเลขทะเบียน 3 กฆ 1879 กทม. ขับเข้ามาจอดและเปิดท้ายรถเพื่อแจกจ่ายหน้ากากกันแก๊ส และอาวุธต่างๆ ให้กับกลุ่มการ์ด ไม่ว่าจะเป็นหนังสติ๊ก แท่งเหล็ก และอาวุธอื่นๆ เรียกได้ว่าหยิบไปพกติดตัวกันทุกคน โดยมีกลุ่มการ์ดซึ่งคาดว่าจะเป็นกลุ่ม "การ์ด DEMO" มารับแจกอุปกรณ์ป้องกันตัวและอาวุธ ที่ด้านท้ายของรถคันดังกล่าวนี้เป็นจำนวนหลายสิบคน

ในภาพนี้จะเห็นได้ชัดเจนว่า มีกลุ่มคนจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าจะเป็นกลุ่มการ์ด DEMO ยืนเลือกของและแบ่งกันเอาไปพก เอาไปถือกันคนละอย่างสองอย่าง เลือกกันอยู่นานเลยทีเดียว ผมเห็นกับตาชัดๆ และได้ถ่ายทั้งภาพนิ่งและคลิปวิดีโอเอาไว้ ทุกท่านสามารถเข้าไปดูได้ในแท็บวิดีโอของเพจนีได้เลยครับ

จากนั้นเวลาประมาณ 19.47 น. เมื่อแจกจ่ายอาวุธเสร็จ รถยนต์คันดังกล่าวก็ขับออกจากพื้นที่ไป ยืนยันชัดเจนว่าเป็น รถยนต์ Honda City สีดำ ทะเบียนก็ตามภาพเลยครับ

ซูมให้เห็นทะเบียนกันชัดๆ โปรดสังเกตที่ลักษณะของกรอบป้ายทะเบียนให้ดีๆ ว่าเป็นลวดลาย หรือ แถบสีแบบไหน เพราะเราจะต้องเอามาเทียบอีกครั้งในภาพท้ายๆ ของอัลบั้มนี้

วันรุ่งขึ้น 5 ก.ย. 64 ผมได้พบว่า มีบุคคลที่ใช้เฟสบุ๊คชื่อ "เจนภพ แสงดอก" เข้ามาแสปมคอมเม้นในโพสต์เฟสบุ๊คดังกล่าวเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งมีการโพสต์ด่าผมด้วยคำหยาบคาย ซึ่งชัดเจนเลยว่า นี่คืออาการของคนที่ "เก็บทรงไม่อยู่" ออกอาการดิ้นแบบสุดๆ เพราะอะไรผมก็ไม่อาจจะทราบได้ จนรู้สึกแปลกใจว่า ทำไมเค้าต้องดิ้นขนาดนี้ รวมทั้งมีบุคคลอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง เข้ามาคอมเม้นด่าแบบหยาบคาย โดยมีลักษณะอาการเดียวกันก็คือ "ดิ้น" เหมือนไส้เดือนโดนขี้เถ้าแบบนั้นเลย

เมื่อผมเห็นข้อพิรุธแบบนั้น ผมจึงได้ดำเนินการสืบสวน ขุดคุ้ยดูว่า มันเกิดอะไรขึ้น ทำไม "เจนภพ แสงดอก" และทีมงานต้องมาดิ้นอะไรขนาดนี้ ก็พบข้อเท็จจริงจากในเฟสบุ๊คของ "เจนภพ แสงดอก" เองว่า มีการโพสต์ภาพรถยนต์ Honda ที่มีลักษะคล้ายกันหลายอย่าง คือ สีตรงกัน รุ่นตรงกัน และล้อแม็ก ก็เป็นลายเดียวกันกับรถยนต์ที่ใช้ขนอาวุธมาเมื่อคืนวันที่ 4 ก.ย. 64 แต่ผมยังไม่ฟันธงนะครับ เพราะผมไม่สามารถยืนยันข้อมูลตรงนี้ได้ เนื่องจากเราก็ยังไม่รู้ว่า ใช่หรือไม่ใช่

จากนั้นผมก็ขุดคุ้ยต่อไปเพิ่มอีกและพบว่า มีภาพอีกภาพนึงที่เป็นภาพรถยนต์ Honda City เช่นเดียวกัน สีดำ รุ่นเดียวกัน และทะเบียนขึ้นต้นด้วยเลข "3" และเมื่อเทียบลักษณะของกรอบป้ายทะเบียน ก็พบว่า มีลักษณะเหมือนกันกับกรอบป้ายทะเบียนของรถยนต์ที่ใช้คนอาวุธมาในคืนวันที่ 4 ก.ย. 64 ที่แยกดินแดงเลย ทะเบียนรถคันนั้นก็ขึ้นต้นด้วยเลข 3 เช่นเดียวกัน แต่ผมก็จะยังไม่ฟันธงนะครับ
อย่างไรก็ตาม เมื่อประมวลผลทุกอย่างดูแล้ว มันก็ค่อนข้างที่จะเข้าเค้าว่า "เจนภพ แสงดอก" อาจจะเป็นเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าวจริง หรือ ถ้าไม่ใช่ "เจนภพ" เอง ก็ต้องเป็นคนใกล้ชิด หรือ เป็นคนที่ "เจนภพ" รักมากๆ เป็นเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าวแน่ๆ เพราะออกอาการมากเกินไป

ยังไม่จบเพียงเท่านี้ ยังมีผู้ใช้งานเฟสบุ๊ค ชื่อก็ตามที่เห็นในรูป ได้โพสต์ข้อความยอมรับเกี่ยวกับรถยนต์คันดังกล่าว และ มีบุคคลหนึ่งมาแสดงความคิดเห็น ยอมรับว่า บุคคลเหล่านั้นเป็นกลุ่มการ์ด DEMO ทั้งหมดจริงๆ

คำถามสำคัญอยู่ที่ว่า รถยนต์คันดังกล่าวเป็นของใคร และ ไปเอาอาวุธรวมทั้งอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีราคามาจากไหน เรื่องนี้ผมคงไม่สามารถตรวจสอบได้ เพราะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองต้องไปตรวจสอบกันเอง ผมทำหน้าที่ได้แค่ชี้เบาะแส แม้คนเหล่านี้จะพยายามแก้ต่างอย่างไร แต่นั่นเป็นเพียงคำพูดเลื่อนลอยที่ไร้น้ำหนัก ขาดซึ่งหลักฐานมาหักล้างกับสิ่งที่ผมนำเสนอ อย่างที่บอกไปแล้วว่า ผมมีทั้งภาพนิ่ง และ คลิปวิดีโอ ก็อยู่ที่วิจารณญาณของทุกท่านแล้วล่ะครับว่าจะคิดเห็นประการใด

Popular posts from this blog

สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ เปิดศึกไล่ล่า พี่ทัก นักสืบเอกชน จนต้องขอยุติบทบาท นักสืบพิฆาตสามนิ้ว

นี่จะเป็นบทความสุดท้ายที่ผมจะเขียนบอกลาแฟนคลับทุกท่าน เพราะหลังจากที่ผมได้เขียนบทความเปิดโปง “สายลับผู้ที่จาบจ้วงสถาบัน” ของ สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ ออกไปก่อนหน้านี้แล้ว 2 บทความ (เดี๋ยวผมแปะลิ้งเอาไว้ที่ใต้นี้ให้ดูถ้าใครสนใจอยากรู้ที่มาที่ไปของเรื่องนี้ ว่าทำไมพี่ทักต้องยุติบทบาทด้วย) สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ผมได้รับแจ้งจากทั้งนักข่าวที่เป็นรุ่นน้อง และ ข้าราชการที่อยู่หน่วยความมั่นคง ส่งข้อความมาบอกเล่าว่า ให้ระวังตัว เนื่องจากตอนนี้ สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ เปิดศึกไล่ล่า พี่ทัก นักสืบเอกชน อย่างเต็มรูปแบบ หมายหัวเอาไว้ ว่าจะจับตัวให้ได้ และจะเล่นงานให้ได้ ก็แปลกนะครับ แทนที่จะตั้งคณะกรรมการสอบสวน เอาผิดลูกน้องตัวเอง แต่กลับหันเป้ามาล็อคที่คน “แฉ” เรื่องนี้ และจ้องจะตามล่าตัว จะเล่นงานให้ได้ ก็แปลกดีนะครับ “ข้า-ราช-การ” หน่วยนี้ บทความแรก ที่ผมเขียน แฉสายลับผู้ที่จาบจ้วงสถาบัน บทความที่สอง ที่ผมเขียน ถามหาความรับผิดชอบจากหน่วยต้นสังกัดของสายลับคนนั้น  สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ เปิดศึกไล่ล่า พี่ทัก นักสืบเอกชน จนทำให้พี่ทักต้องประกาศยุติบทบาท อันที่จริงแล้ว การติดต่อกับผมนั้น ทำไ...

นักสืบ แฉ "สายลับ" ของหน่วยข่าวแฝงตัวในม็อบสามนิ้ว "หนอน" กลายเป็น "เกลือ"

หลายคนคงจะได้เห็นภาพที่เอาผมเอาลงไปก่อนหน้านี้ ว่ามีคนมาโวยวาย กล่าวหาว่าผมเอาภาพที่เค้าถ่ายไปใช้ในเฟส/ทวิต โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งจริงครับ ถูกต้องตามที่เค้ากล่าวเลย แต่ๆๆ ใจเย็นๆ ครับ มันมีที่มาที่ไป ผมจะขอเล่าย้อนความตามลำดับซะหน่อย จะได้ให้ความรู้เรื่องการสืบสวนทางออนไลน์กับแฟนคลับทุกท่าน ( วิชา นักสืบ 101 ) จะได้เข้าใจว่า จริงๆ แล้ว ทุกคนก็ทำอย่างผมได้ มันไม่ยากเลย ไม่จำเป็นต้องใช้อะไรพิเศษ ก็สามารถพิสูจน์ตัวตนของบุคคลในโลกออนไลนได้ เพียงแต่ครั้งนี้ ผมดันไปจับปลาตัวใหญ่ได้ด้วยเบ็ดตกปลาไม้ไผ่อันเล็กๆ แค่อันเดียว อาจจะเรียกว่า ใช้แค่เบ็ดเล็กๆ แต่ตกได้ปลาวาฬซะงั้น มาดูกันครับว่า มันเป็นยังไง เรื่องนี้ยาวนิดนึง แต่รับรองว่า อ่านสนุก และได้ความรู้แน่ๆ ครับ ในช่วงที่ผ่านมาผมกำลังตามสืบพวก ตากล้อง/ช่างภาพ(เถื่อน) ทั้งหลาย ทั้งตากล้องภาพนิ่ง ทั้งพวกไลฟ์สด ที่แอบแฝงตัวมาอยู่ในม็อบสามนิ้ว แล้วถ่ายภาพหากิน แต่การจะหาตัวตนของคนพวกนี้ว่าเค้าเป็นใคร มันยากครับ แค่เจอหน้า เห็นหน้า มันพิสูจน์ตัวได้ยาก ยิ่งใส่หน้ากากด้วยแล้ว ยิ่งยากไปกันใหญ่ ดังนั้น เราก็ต้องวางเบ็ดใส่เหยื่อวางไว้ครับ เทคนิคก็คือ...

กลุ่มสามนิ้ว บ้านโป่ง เข้ามาร่วมก่อเหตุ 19 ก.ย. 64 แต่ไปไม่รอด โดนจับจนได้

เมื่อวานนี้ 19 ก.ย. 64 ท่ามกลางกลุ่มหมอกควันจากแก๊สน้ำตาที่นางเลิ้ง ขณะที่ผมอยู่ท่ามกลางวัยรุ่นสามนิ้วที่กำลังยิงพลุยิงประทัดใส่ตำรวจ คฝ. อยู่นั้น ก็พบบุคคลแปลกๆ 2 คน ที่มันดูแล้วผิดปกติอย่างชัดเจน กลุ่มคนพวกนี้ไม่ใช่เด็กวัยรุ่น และหน้าตาท่าทางไม่ใช่ “ทะลุแก๊ส” ตามปกติที่ผมเคยเห็น ในท่ามกลางหมอกควันนั้น ผมไม่สามารถบอกได้ว่าใครเป็นใคร เพราะพวกเขาใส่หน้ากาก แต่ที่เห็นผิดปกติชัดๆ ก็คือ รูปร่างและท่าทาง มันไม่ใช่เด็กวัยรุ่นแถวนี้ที่ผมคุ้นตาแน่นอน เมื่อเดินออกมาพ้นจากระยะแก๊สน้ำตา พอคนพวกนี้ถอดหน้ากากออก ผมก็นึกหน้าพวกเขาได้ทันที เพราะคนพวกนี้คือ ตัวแสบจาก กลุ่มสามนิ้ว บ้านโป่ง หรือที่เรียกกันเต็มๆ ว่า “ลูกบ้านโป่งไม่อินเผด็จการ” กลุ่มนี้ญาติของแฟนผมรู้จักเป็นอย่างดี เคยเอารูปและเรื่องราวมาเล่าให้ฟังในช่วงสัปดาห์ที่แล้วที่ผมกำลังทำวิจัยเรื่องขบวนการสามนิ้วอยู่ ตอนแรกผมก็ไม่สนใจสักเท่าไหร่ เพราะไม่ได้อยู่แถวนี้ แต่จำได้ว่า ญาติของแฟนผมเค้าเคยบอกว่า คนพวกนี้มักจะขับรถขึ้นมาร่วมม็อบใหญ่ๆ ด้วยเสมอ ก็แน่นอนล่ะ ไม่ได้จ่ายค่าน้ำมันเอง แต่มาร่วมเพื่อให้มีภาพการเข้าร่วมกิจกรรม ได้มันส์ด้วย (มันส์ต...