Skip to main content

กลุ่มสามนิ้ว บ้านโป่ง เข้ามาร่วมก่อเหตุ 19 ก.ย. 64 แต่ไปไม่รอด โดนจับจนได้

เมื่อวานนี้ 19 ก.ย. 64 ท่ามกลางกลุ่มหมอกควันจากแก๊สน้ำตาที่นางเลิ้ง ขณะที่ผมอยู่ท่ามกลางวัยรุ่นสามนิ้วที่กำลังยิงพลุยิงประทัดใส่ตำรวจ คฝ. อยู่นั้น ก็พบบุคคลแปลกๆ 2 คน ที่มันดูแล้วผิดปกติอย่างชัดเจน กลุ่มคนพวกนี้ไม่ใช่เด็กวัยรุ่น และหน้าตาท่าทางไม่ใช่ “ทะลุแก๊ส” ตามปกติที่ผมเคยเห็น ในท่ามกลางหมอกควันนั้น ผมไม่สามารถบอกได้ว่าใครเป็นใคร เพราะพวกเขาใส่หน้ากาก แต่ที่เห็นผิดปกติชัดๆ ก็คือ รูปร่างและท่าทาง มันไม่ใช่เด็กวัยรุ่นแถวนี้ที่ผมคุ้นตาแน่นอน เมื่อเดินออกมาพ้นจากระยะแก๊สน้ำตา พอคนพวกนี้ถอดหน้ากากออก ผมก็นึกหน้าพวกเขาได้ทันที เพราะคนพวกนี้คือ ตัวแสบจาก กลุ่มสามนิ้ว บ้านโป่ง หรือที่เรียกกันเต็มๆ ว่า “ลูกบ้านโป่งไม่อินเผด็จการ” กลุ่มนี้ญาติของแฟนผมรู้จักเป็นอย่างดี เคยเอารูปและเรื่องราวมาเล่าให้ฟังในช่วงสัปดาห์ที่แล้วที่ผมกำลังทำวิจัยเรื่องขบวนการสามนิ้วอยู่ ตอนแรกผมก็ไม่สนใจสักเท่าไหร่ เพราะไม่ได้อยู่แถวนี้ แต่จำได้ว่า ญาติของแฟนผมเค้าเคยบอกว่า คนพวกนี้มักจะขับรถขึ้นมาร่วมม็อบใหญ่ๆ ด้วยเสมอ ก็แน่นอนล่ะ ไม่ได้จ่ายค่าน้ำมันเอง แต่มาร่วมเพื่อให้มีภาพการเข้าร่วมกิจกรรม ได้มันส์ด้วย (มันส์ตามแบบของเค้าอ่ะนะ แต่คนอื่นเดือดร้อนก็ช่างมัน) แล้วก็ไปเบิกเอายอดจากสปอนเซอร์ตามระเบียบ

กลุ่มสามนิ้ว บ้านโป่ง 3 คน มาก่อเหตุแต่ดันฉลาดไม่พอ หรือ หลงทางก็ไม่ทราบ โดนตำรวจจับกลางถนนระหว่างขับรถหนีซะงั้น

ที่ราชบุรีนี่มีแนวร่วม “สามนิ้ว” เยอะเลยนะครับ ก่อนหน้านี้ ผมก็เอาเรื่องของ ร้านผลิตเสื้อ ใน จ.ราชบุรี หากินกับการคงอยู่ของ กลุ่ม "ทะลุแก๊ซ"  มาบอกกันไปแล้ว นั่นก็อยู่ที่ราชบุรี มาคราวนี้ก็มีพวกตัวแสบจาก “กลุ่มบ้านโป่งไม่อินเผด็จการ” เจ้าเก่ามาสร้างความวุ่นวายในพื้นที่ กทม. อีก แต่ความฮามันอยู่ตรงนี้นี่แหละครับ

ทั้งสามคนขับรถขึ้นมาร่วมม็อบ แล้วตั้งใจก่อเหตุความวุ่นวายที่นางเลิ้ง ก็สนุกเค้าล่ะ ไม่ใช่จังหวัดของพวกเขานี่ และอย่างที่รู้กัน พวกผู้ใหญ่ที่มีแนวคิดสามนิ้วแบบนี้ เปลี่ยนความคิดยาก เพราะมันฝังเข้าไปในหัวแล้ว แยกกันไม่ออกระหว่างความถูกต้อง หรือ การทำลายชาติ ในหัวมีแต่ เงิน เงิน เงิน แล้วก็ เงิน อย่างเดียว ให้ทำอะไรก็ได้ ขอแค่มีเงินจ้าง แล้วอ้างคำว่า “ประชาธิปไตย” รัวๆ แค่นั้นพอ

ทั้งสามคนนี้ มา “ก่อเหตุ” ผมย้ำเลยนะว่า พวกเขามาก่อเหตุ คือ ไม่ได้มามือเปล่า ไม่ได้มาชูมือ ตะโกนเรียกร้องประชาธิปไตยนะ แต่มีหนังสติ๊กพร้อมลูกแก้ว และลูกหินเตรียมมาด้วย ผมก็เห็นตอนที่เจอกันที่นางเลิ้ง เค้าก็ง้างยิงใส่ตำรวจ คฝ. อย่างสนุกสนาน (แต่เวลาโดนจับนี่ หน้าซีดเป็นไก่ต้มของจริงเลย ผมไปดูจากไลฟ์สดของพวกนี้มา หน้าซีด แสดงอาการปอดแหกอย่างชัดเจน คือ ไม่นึกว่าจะซวยโดนจับไง และของกลางก็เต็มเลย คือ หนังสติ๊ก ลูกแก้ว ลูกหิน ผมยังเห็นมันมีกันอยู่เพียบเลยตอนที่แยกย้ายจากนางเลิ้ง)

แต่สังเกตอะไรมั้ยครับ เห็นที่รถมั้ย เค้าติดป้ายอะไรไว้? ก็เค้าติดป้ายบอกฝ่ายเอาไว้แบบนี้ ตำรวจก็จับตัวได้ไม่ยากสิครับ ตำรวจไม่ได้จับคนพวกนี้ที่นางเลิ้ง เพราะมันขับรถหนีออกไปก่อน ตอนที่ คฝ. เค้าบุกมา ไปก่อนผมนิดนึง แต่ก็เห็นไกลๆ ว่าโดนตำรวจล้อมจับแถวๆ ถ.สวรรคโลก ล่ะมั้งถ้าจำไม่ผิด แต่ผมหยุดดูด้วยไม่ได้ เดี๋ยวจะซวยโดนตำรวจสอยไปด้วยอีกคน เลยรีบขับกลับบ้านเพราะตอนนั้นก็ใกล้จะสามทุ่มแล้ว

คาดว่า พวกตัวแสบทั้งสามคนนี้ของ กลุ่มสามนิ้ว บ้านโป่ง น่าจะโดนหลายข้อหาเลยทีเดียว ก็ช่วยไม่ได้นะครับ พวกคุณไม่ได้มาเรียกร้องประชาธิปไตย แต่เตรียมอาวุธมาใช้ทำร้ายตำรวจ คฝ. ซะขนาดนั้น ก็สมควรแล้วที่จะโดนจับ นี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างว่า ตำรวจเค้าก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ แต่เค้าก็ไล่จับพวกป่วนเมืองเหล่านี้อยู่นะครับ และคงไล่สอบสวนขยายผลออกไปเรื่อยๆ เชื่อเถอะครับ พวกมันซวยแน่ๆ ต่อให้วันนี้มาก่อเหตุแล้วไม่โดนจับ แต่ถ้าตำรวจเค้ามีภาพเป็นหลักฐาน หรือมีคำให้การที่ซัดทอดจากคนที่โดนจับ เค้าก็ออกหมายเรียกไปเรียกมาสอบสวนได้ หรือ ถ้าคนที่ถูกซัดทอดมันทำร้ายแรงเอาไว้มาก ก็ว่ากันไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

นี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ผมอยากจะเอามาบอกกันให้รู้ ถ้าน้องๆ ที่ตอนนี้กำลังหลงผิดไปเชื่อว่า พวก “สามนิ้ว” หรือ “ทะลุแก๊ส” กำลังทำสิ่งที่ถูกต้องอยู่ ลองอ่านบทความต่างๆ ของผมเยอะๆ นะครับ หากสงสัยตรงไหน อยากปรึกษาหรืออะไร ส่ง DM มาพูดคุยกันได้ ผมยินดีให้คำปรึกษา การมีคดีความกับตำรวจ มันไม่เหมือนกับการโดนอาจารย์ฝ่ายปกครอง “กล้อนผม” หรอกนะครับ อันนั้นมันเป็นความผิดเล็กๆ น้อยๆ ในโรงเรียน แต่ถ้าโดนตำรวจจับ มีคดี มีประวัติติดตัว มันจะติดตัวไปแบบนั้นตลอดชีวิต ต่อไปจะหางานทำดีๆ ก็ไม่ได้ สอบเป็นข้าราชการก็ไม่ได้ มันคุ้มกันเหรอครับ เชื่อพี่ ถ้ามีอะไร DM มาคุยส่วนตัวกับพี่ได้ พี่ยินดีให้คำปรึกษาครับ

อย่าทำตัวเหมือน 3 คนนี้ พวกนี้เค้าทำชั่วเพื่อแลกเงิน เพราะตัวพวกเขาเองสิ้นไร้ไม้ตอก ไม่มีความรู้ความสามารถจะไปทำมาหากินอะไรได้แล้ว เลยเลือกที่จะมาใช้ชีวิตเสี่ยงคุกเสี่ยงตารางแบบนี้ คนพวกนี้เป็นพวกขยะสังคม น้องๆ ควรจะมีอนาคตที่ดีกว่าคนเหล่านี้ เชื่อพี่ทักเถอะ

Popular posts from this blog

สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ เปิดศึกไล่ล่า พี่ทัก นักสืบเอกชน จนต้องขอยุติบทบาท นักสืบพิฆาตสามนิ้ว

นี่จะเป็นบทความสุดท้ายที่ผมจะเขียนบอกลาแฟนคลับทุกท่าน เพราะหลังจากที่ผมได้เขียนบทความเปิดโปง “สายลับผู้ที่จาบจ้วงสถาบัน” ของ สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ ออกไปก่อนหน้านี้แล้ว 2 บทความ (เดี๋ยวผมแปะลิ้งเอาไว้ที่ใต้นี้ให้ดูถ้าใครสนใจอยากรู้ที่มาที่ไปของเรื่องนี้ ว่าทำไมพี่ทักต้องยุติบทบาทด้วย) สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ผมได้รับแจ้งจากทั้งนักข่าวที่เป็นรุ่นน้อง และ ข้าราชการที่อยู่หน่วยความมั่นคง ส่งข้อความมาบอกเล่าว่า ให้ระวังตัว เนื่องจากตอนนี้ สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ เปิดศึกไล่ล่า พี่ทัก นักสืบเอกชน อย่างเต็มรูปแบบ หมายหัวเอาไว้ ว่าจะจับตัวให้ได้ และจะเล่นงานให้ได้ ก็แปลกนะครับ แทนที่จะตั้งคณะกรรมการสอบสวน เอาผิดลูกน้องตัวเอง แต่กลับหันเป้ามาล็อคที่คน “แฉ” เรื่องนี้ และจ้องจะตามล่าตัว จะเล่นงานให้ได้ ก็แปลกดีนะครับ “ข้า-ราช-การ” หน่วยนี้ บทความแรก ที่ผมเขียน แฉสายลับผู้ที่จาบจ้วงสถาบัน บทความที่สอง ที่ผมเขียน ถามหาความรับผิดชอบจากหน่วยต้นสังกัดของสายลับคนนั้น  สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ เปิดศึกไล่ล่า พี่ทัก นักสืบเอกชน จนทำให้พี่ทักต้องประกาศยุติบทบาท อันที่จริงแล้ว การติดต่อกับผมนั้น ทำไ...

แบงค์ “เมียสลิ่มก็ไม่เอา” ควงแฟนใหม่ “ที่เกลียดสลิ่ม” ออกงาน Car Mob 19 ก.ย. 64

เรื่องนี้จะไม่เอาขยายผลก็คงจะไม่ได้ ถ้าใครได้ติดตามเฟสบุ๊ค และทวิตเตอร์ “พี่ทัก นักสืบเอกชน” มาอย่างต่อเนื่อง จะเห็นว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 64 ที่ผ่านมา ตำรวจได้เข้าไปตรวจค้นบ้านของแกนนำกลุ่ม “โรนิน ฝั่งธน” นั่นคือ แบงค์ ตามคลิปที่เห็นด้านล่างนี้นี่แหละครับ ซึ่งการตรวจค้นของทางตำรวจก็ทำตามกฎหมายนะครับ มีหมายค้นมาอย่างถูกต้อง ประเด็นก็คือ ภรรยาของ แบงค์ ไม่พอใจที่ แบงค์ หาเรื่องเข้าบ้าน เตือนแล้วว่าอย่าไปม็อบก็ไม่ฟัง จนตำรวจบุกมาค้นบ้าน อับอายคนในหมู่บ้าน แต่แบงค์ก็เลยสวนกลับ ว่าภรรยาตัวเองว่าเป็นสลิ่ม จนทำให้ แบงค์ จิ๊กโก๋ โรนินฝั่งธน โด่งดังไปทั้งประเทศด้วยวลีเด็ด “เมียสลิ่มก็ไม่เอาครับ” และประกาศว่าจะย้ายออกจากบ้านทันที แล้วบ่ายวันนั้นก็ไปม็อบต่อ แบงค์ “เมียสลิ่มก็ไม่เอา” นอกใจภรรยา ตั้งแต่ก่อนที่จะมีประเด็นหลังจากโดนตำรวจค้นบ้าน หลังจากวันที่ 10 ก.ย. 64 แบงค์ “เมียสลิ่มก็ไม่เอาครับ” ก็ได้ย้ายออกจากบ้านจริงๆ เหมือนจะประกาศแยกทางกับภรรยา แต่มีการโพสต์เป็นห่วงลูกชายด้วย ทำให้หลายคนมองว่า แบงค์ เป็นพ่อบ้านใจกล้าที่ไม่กลัวเมียจริงๆ แต่ประเด็นก็คือ เมื่อทำการตรวจสอบย้อนหลังไป จะพบว่า ...

นักสืบ แฉ "สายลับ" ของหน่วยข่าวแฝงตัวในม็อบสามนิ้ว "หนอน" กลายเป็น "เกลือ"

หลายคนคงจะได้เห็นภาพที่เอาผมเอาลงไปก่อนหน้านี้ ว่ามีคนมาโวยวาย กล่าวหาว่าผมเอาภาพที่เค้าถ่ายไปใช้ในเฟส/ทวิต โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งจริงครับ ถูกต้องตามที่เค้ากล่าวเลย แต่ๆๆ ใจเย็นๆ ครับ มันมีที่มาที่ไป ผมจะขอเล่าย้อนความตามลำดับซะหน่อย จะได้ให้ความรู้เรื่องการสืบสวนทางออนไลน์กับแฟนคลับทุกท่าน ( วิชา นักสืบ 101 ) จะได้เข้าใจว่า จริงๆ แล้ว ทุกคนก็ทำอย่างผมได้ มันไม่ยากเลย ไม่จำเป็นต้องใช้อะไรพิเศษ ก็สามารถพิสูจน์ตัวตนของบุคคลในโลกออนไลนได้ เพียงแต่ครั้งนี้ ผมดันไปจับปลาตัวใหญ่ได้ด้วยเบ็ดตกปลาไม้ไผ่อันเล็กๆ แค่อันเดียว อาจจะเรียกว่า ใช้แค่เบ็ดเล็กๆ แต่ตกได้ปลาวาฬซะงั้น มาดูกันครับว่า มันเป็นยังไง เรื่องนี้ยาวนิดนึง แต่รับรองว่า อ่านสนุก และได้ความรู้แน่ๆ ครับ ในช่วงที่ผ่านมาผมกำลังตามสืบพวก ตากล้อง/ช่างภาพ(เถื่อน) ทั้งหลาย ทั้งตากล้องภาพนิ่ง ทั้งพวกไลฟ์สด ที่แอบแฝงตัวมาอยู่ในม็อบสามนิ้ว แล้วถ่ายภาพหากิน แต่การจะหาตัวตนของคนพวกนี้ว่าเค้าเป็นใคร มันยากครับ แค่เจอหน้า เห็นหน้า มันพิสูจน์ตัวได้ยาก ยิ่งใส่หน้ากากด้วยแล้ว ยิ่งยากไปกันใหญ่ ดังนั้น เราก็ต้องวางเบ็ดใส่เหยื่อวางไว้ครับ เทคนิคก็คือ...