Skip to main content

ม่อน อาชีวะ อมเงินม็อบจริงหรือไม่? โปรดฟังข้อมูลอีกด้านเพื่อพิจารณา

หลังจากที่ในบทความที่แล้ว ผมได้เขียนเรื่อง "ปมฉาว" "ม่อน อาชีวะ" คนสนิทว่าที่ สก. มีนบุรี พรรคก้าวไกล โดนคนร้ายทำรถเสียหาย จากศัตรูทางการเมือง หรือ ปมชู้สาว" ไปแล้วนั้น ก็มีข่าวอีกด้านนึงออกมาว่า "สมาคมช่างภาพแฉ ม่อน อาชีวะ อมเงินชุมนุม" เลยทำให้รถของ ม่อน อาชีวะ ถูกราดน้ำมันเบรกและทุบกระจกหน้าจนแตกร้าว ตรงนี้เป็นข้อมูลที่ผมก็พอจะได้ยินอยู่บ้างแต่ไม่คิดว่าจะเป็นประเด็นใหญ่ เพราะอะไร ลองมาฟังข้อเท็จจริง และข้อมูลจากคนวงในที่บอกกับผมมาดูนะครับ ว่า ม่อน อาชีวะ น่าจะอมเงินมากจนเป็นประเด็นแบบนี้ได้หรือไม่?

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบทบาทของ ม่อน อาชีวะ ที่ผ่านมา และในปัจจุบัน รวมทั้งรายได้จากการจัดม็อบ

1. ม่อน อาชีวะ ไม่ใช่หัวใหญ่สุดของกลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชน

ตรงนี้หลายคนอาจจะยังไม่ทราบ เพราะเรามักจะเห็นว่า ม่อน อาชีวะ เปิดหน้าเหมือนเป็นตัวแทนกลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชนมาตลอด ก็ต้องคิดว่า ม่อน อาชีวะ คือ ใหญ่สุดในกลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชนแน่นอน และคงคิดว่า มันก็คงเหมือนกับ "ตั้ง อาชีวะ" แน่ๆ ที่ต้องฟาดเรียบเรื่องเงิน แต่จริงๆ แล้ว จากข้อมูลที่ผมได้รับจากน้องที่เป็นการ์ดอาชีวะกลุ่มเดียวกับม่อน เล่าให้ฟังว่า ในกลุ่มมีระบบพี่น้อง และดูแลกันแบบแบ่งเป็นระดับๆ ไป เอาจริงๆ ก็เหมือนแก๊งค์นั่นแหละ มีการเคารพรุ่นพี่กันในระดับหนึ่ง และคนที่ใหญ่โตมากๆ ในกลุ่มนี้อีกคนนึงที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้จักกัน ก็คือ "พี่จีน"

พี่จีน ก็คือ คนที่เราเคยเห็นว่า ต่อยกับ หมู (อดีตกลุ่มฟันเฟือง) ที่ห้องน้ำในปั๊มน้ำมันไปก่อนหน้านี้ คนนั้นแหละครับ พี่จีน ตามรูปด้านล่างนี้เลย แต่ประเด็นสำคัญก็คือว่า

พี่จีน ตอนที่ต่อยกับ หมู อดีตกลุ่มฟันเฟือง ตรงห้องน้ำในปั้มน้ำมันที่บางใหญ่

ในช่วงที่กลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชน มาร่วมเคลื่อนไหวกับ จตุพร พรหมพันธ์ ณ ตอนนั้น ที่ไปจัดการชุมนุมกันที่นางเลิ้ง ในเหตุการณ์วันนั้น (วันแรกของการชุมนุม) ช่วงค่ำๆ พี่จีน นี่แหละ ที่ต่อย "ไอ้ตั้ว" (การ์ดอาชีวะกลุ่มเดียวกัน) จนหน้าแหกแตกเลือดไหลเลยทีเดียว สาเหตุก็คือ ไอ้ตั้ว ไปรับเงินมาจ่ายให้กลุ่ม จะเรียกว่า "ค่าแรง" หรือ "ค่าจ้าง" หรือ "ค่าตัว" หรือ "ค่าน้ำและอาหาร" หรืออะไรก็ว่าไป แต่ที่รู้กันในกลุ่มก็คือ เงินที่ต้องได้กันนี่แหละจากการไปร่วมม็อบ โดยตอนนั้น ไอ้ตั้ว รับมา 2 หมื่นบาท แต่เอามาให้ทางกลุ่มแค่หมื่นเดียว พอพี่จีนตรวจสอบและรู้เรื่องเข้า ก็ตะบันหน้าไอ้ตั้วจนหน้าแหกในวันนั้นเลย เหตุการณ์นี้ มีแต่กลุ่มการ์ดที่เห็น และแม้จะมีสื่อบางสำนักถ่ายภาพไป ก็ไม่ได้กลายเป็นข่าวใหญ่อะไร เพราะพวกเค้าปิดข่าวกัน เนื่องจาก อาชีวะ ต่อย อาชีวะ พวกเดียวกันเอง

 ม่อน อาชีวะ อายุน้อยกว่า พี่จีน จะเรียกว่าเป็น รุ่นน้อง หรือ น้อง ก็ไม่ผิด ดังนั้น เงินที่ไหลเข้ามาในกลุ่ม จะไม่ได้มาผ่าน หรือ มาจบที่ ม่อน อาชีวะ เพียงคนเดียวแน่นอน มีการแบ่งสรรปันส่วนกันอยู่แล้ว โดย พี่จีน คุมงานอยู่เบื้องหลัง ม่อน อาชีวะ เป็นคนฉายแสงออกหน้า นั่นคือ การทำงานของแกนนำกลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชน ในปัจจุบันนี้ ไม่ใช่อย่างที่ "คนลี้ภัย" ตั้ง อาชีวะ มาทำเป็นอวดรู้ หรือ โชว์พาวไลฟ์ข้ามทวีปมาปั่นหัวคนอื่นๆ


ภาพของม่อนและจีนที่สนิทสนมกันแบบรุ่นพี่รุ่นน้อง
 2. รายได้ของม่อนอาชีวะ

จากที่ผมเล่าไป จะเห็นว่า งบที่กลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชนได้ในการจัดคนมาม็อบแต่ละครั้ง มันไม่ได้มากมายเป็นแสนบาทอะไรแบบนั้นนะครับ ก็แค่หลักหมื่น และม็อบแต่ละครั้งสมัยนี้ก็ไม่ได้ "เบิ้มๆ" จริงเหมือนแต่ก่อนแล้ว ดังนั้น นี่ไม่ใช่รายได้หลักของ ม่อน อาชีวะ แน่นอน และอย่าลืมว่า ม่อนเค้าถ่างขาทำหลายอย่าง ม็อบ เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น จริงๆ ยังมีเรื่องการเมืองท้องถิ่น หรือ สก. เขตมีนบุรี ที่ม่อนร่วมแรงด้วยอย่างเต็มที่ และยังมีเรื่องการทำโรงพยาบาลสนาม ที่เปลี่ยนโรงแรมเป็นโรงพยาบาล นั่นก็เป็นอีกหนึ่งแหล่งรายได้ของ ม่อน อาชีวะ และยังมีอีกหลายๆ งาน ที่ไม่ใช่ "งานที่ถูกต้อง" ตามระเบียบของกระทรวงแรงงาน คือ ทำงานก็จริง แต่ไม่มีประกันสังคม แล้วก็รับเงินแบบเต็มๆ แบบตรวจสอบไม่ได้ เพราะไม่ได้อยู่ในระบบ ก็ไม่ต้องลงข้อมูลรายได้ในระบบยื่นภาษีประจำปี มีรายได้จริงๆ ก็เหมือนไม่มี โอเคนะครับ

ภาพพี่จีน กับ น้องม่อน อาชีวะ ขณะที่ไปช่วยโครงการเปลี่ยนโรงแรมเป็น รพ.สนาม

ดังนั้น จากที่ผมคุยกับน้องในทีมการ์ด เค้าก็ประเมินว่า ม่อน อาชีวะ อาจจะมีการอมเงินบ้าง แต่เล็กน้อย คือ "ตามน้ำ" นิดๆ หน่อยๆ ไม่ใช่ประเด็นจะมาเป็นเรื่องผิดใจกับคนในทีมแน่ๆ

3. ระบบพี่น้องในกลุ่มแก๊งค์สายสีเทา

การคบหากัน รวมกลุ่มกันแบบชาวแก๊งค์ มันต้องคุยกันแบบนักเลงนะครับ ในวงการสีเทาๆ เค้ารู้กันดีว่า การทำอะไรผิดในแก๊งค์ หรือ มีอะไรผิดใจกัน มันต้องเคลียร์ อย่างที่ไอ้ตั้วมันอมเงิน ก็โดน พี่จีน ต่อยหน้าแหกทันที ไม่ต้องมาลีลา หรือ แขวะกัน หรือ แกล้งกันแบบเอาน้ำมันเบรคไปราดรถ ชาวแก๊งค์ หรือ นักเลงสายสีเทา เค้าไม่ทำกันครับ เค้าจะเคลียร์กันแบบแมนๆ เช่น ต่อยกันตัวต่อตัว หรือ โดนรุมกระทืบหากผิดกฎแก๊งค์ หรือ ไล่ออกจากกลุ่ม หรือ โดนลูกพี่ตบ ถ้าหนักๆ ก็แจกลูกตะกั่วกันไปเลย ดังนั้น ในวงการนักเลงที่ม่อนอยู่ หากมีการอมเงิน และเป็นประเด็นจริงๆ คงต้องเคลียร์กันแบบนักเลงไปแล้ว ก็อย่างที่บอกไป เรื่องที่เกิดก็เลยไม่น่าใช่จากประเด็นการอมเงิน

4. ชีวิตส่วนตัวของ ม่อน อาชีวะ

ม่อน อาชีวะ ขึ้นชื่อได้ว่า เจ้าชู้ และเป็น "เสือผู้หญิง" ในระดับตัวท็อปก็ว่าได้ เรื่องเงินน่ะไม่เท่าไหร่ แต่เรื่องสาวๆ คือ ความสำคัญอันดับหนึ่งของ ม่อน อาชีวะ ซึ่งเรื่องนี้ คนนอกกลุ่มมักจะไม่รู้ แต่เพื่อนๆ พี่น้องในกลุ่มที่สนิท จะรู้ดีกว่า ม่อน อาชีวะ เค้าคือ คาสโนว่าตัวพ่ออย่างแท้จริง

ทั้งหมดนี้ เป็นข้อมูลที่ผมได้รับมาจากน้องที่ทำหน้าที่เป็นการ์ดในสังกัดกลุ่มเดียวกับม่อนอาชีวะ ก็สุดแท้แต่ละท่านจะพิจารณาแบบใด ผมก็นำมาเล่าตามข้อมูลที่ผมได้รับมา เราทุกคนสามารถสันนิษฐาน และตั้งข้อสงสัยได้ครับ จะเป็นในประเด็นไหนก็ได้หมด แต่สำหรับสิ่งที่แกนนำสามนิ้วพูดออกมา ผมเตือนเลยว่า อย่าเชื่อในสิ่งที่เค้าบอกมา เพราะถ้าเป็นเรื่องดี เค้ามักจะเล่าให้เกินจริงเพื่อให้ตัวเองดูดีขึ้นไปอีก แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่ดีของเขา เขาจะโกหกเป็นอีกเรื่องนึงทันที นี่คือ ธรรมชาติของมนุษย์ประเภทนี้ ก็ขอให้ทุกคน ใช้วิจารณญาณของท่านเองในการวิเคราะห์เอานะครับ

Popular posts from this blog

สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ เปิดศึกไล่ล่า พี่ทัก นักสืบเอกชน จนต้องขอยุติบทบาท นักสืบพิฆาตสามนิ้ว

นี่จะเป็นบทความสุดท้ายที่ผมจะเขียนบอกลาแฟนคลับทุกท่าน เพราะหลังจากที่ผมได้เขียนบทความเปิดโปง “สายลับผู้ที่จาบจ้วงสถาบัน” ของ สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ ออกไปก่อนหน้านี้แล้ว 2 บทความ (เดี๋ยวผมแปะลิ้งเอาไว้ที่ใต้นี้ให้ดูถ้าใครสนใจอยากรู้ที่มาที่ไปของเรื่องนี้ ว่าทำไมพี่ทักต้องยุติบทบาทด้วย) สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ผมได้รับแจ้งจากทั้งนักข่าวที่เป็นรุ่นน้อง และ ข้าราชการที่อยู่หน่วยความมั่นคง ส่งข้อความมาบอกเล่าว่า ให้ระวังตัว เนื่องจากตอนนี้ สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ เปิดศึกไล่ล่า พี่ทัก นักสืบเอกชน อย่างเต็มรูปแบบ หมายหัวเอาไว้ ว่าจะจับตัวให้ได้ และจะเล่นงานให้ได้ ก็แปลกนะครับ แทนที่จะตั้งคณะกรรมการสอบสวน เอาผิดลูกน้องตัวเอง แต่กลับหันเป้ามาล็อคที่คน “แฉ” เรื่องนี้ และจ้องจะตามล่าตัว จะเล่นงานให้ได้ ก็แปลกดีนะครับ “ข้า-ราช-การ” หน่วยนี้ บทความแรก ที่ผมเขียน แฉสายลับผู้ที่จาบจ้วงสถาบัน บทความที่สอง ที่ผมเขียน ถามหาความรับผิดชอบจากหน่วยต้นสังกัดของสายลับคนนั้น  สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ เปิดศึกไล่ล่า พี่ทัก นักสืบเอกชน จนทำให้พี่ทักต้องประกาศยุติบทบาท อันที่จริงแล้ว การติดต่อกับผมนั้น ทำได้ง่

เปิดเผย “โต้ง สายลับที่มีใจสามนิ้ว” เด็กของ สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ผมได้เขียนบทความ นักสืบ แฉ "สายลับ" ของหน่วยข่าวแฝงตัวในม็อบสามนิ้ว "หนอน" กลายเป็น "เกลือ" ไปแล้วนั้น มีแฟนคลับหลายคนที่เป็นข้าราชการสอบถามเข้ามาว่า บุคคลดังกล่าว สังกัดอยู่ในหน่วยงานใด เพราะไม่พอใจกับการเสียดสีสถาบันของ โต้ง เป็นอย่างมาก ซึ่งผมเองก็เกรงว่าเพื่อนผมที่เป็นคนให้ข้อมูลจะได้รับความเดือดร้อนไปด้วยหรือไม่ เนื่องจากอยู่หน่วยงานเดียวกันกับโต้ง จึงไม่ได้เปิดเผยชื่อของหน่วยงานนั้นตั้งแต่แรก แต่หลังจากที่ผมได้คุยกับเพื่อนเพิ่มเติมหลังจากที่เอาบทความลงไป เพื่อนผมบอกว่า ควรจะเปิดเผยชื่อหน่วยงานไปเลย เพราะหน่วยงานนี้ มักจะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับความผิดของลูกน้อง และหัวหน้าแผนกส่วนใหญ่ก็ชอบเอาดีเข้าตัว บางคนก็มีใจเป็น “สามนิ้ว” ไม่ต่างจาก โต้ง ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมาก ผมก็เพิ่งรู้ว่ามีแบบนี้ในหน่วยงานราชการด้วย หากหน่วยงานความมั่งคงทางด้านการข่าว กลับมีคนที่มีใจสามนิ้ว และไม่เอาสถาบันกษัตริย์ อยู่ในหน่วยงานนี้ รับเงินเดือนหลวง แต่ทรยศหลวง มันทุเรศเกินไปนะครับ เปิดเผย โต้ง สายลับที่มีใจสามนิ้ว ลูกรักของ สำนักงานข่าวกรอ

"เฮียณุ คนไม่กลัวเมีย" โดนอดีตเด็กในเครือ ต่อยหน้า เจ็บทั้งเฮียณุ เจ็บทั้งเมีย คนที่หาเรื่องนำทีมโดย ภูมิ หัวลำโพง

เมื่อคืนนี้ มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น นั่นคือ อยู่ๆ "ภูมิ หัวลำโพง" หรือ นายศศลักษณ์ สุขเจริญ ยกพวกมาหารุมยำ เฮียณุ ถึงที่ร้าน ที่ดินแดง (ปกติเฮียณุ แกมาทุกวันอยู่แล้ว) ซึ่งจากในคลิปไลฟ์สดของ "เฮียณุ คนไม่กลัวเมีย" เราจะเห็นได้ว่า มีผู้ชายตัวอ้วนๆ ใหญ่ๆ คนนึง เข้ามาสาวหมัดใส่เฮียณุ (ซึ่งภรรยาเอาตัวบังเฮียณุไว้อยู่) โดยชายคนดังกล่าวสาวหมัดไม่ยั้ง โดนทั้งเฮียณุ โดนทั้งเมีย คนที่ต่อยก็พูดอย่างเดียวว่า "ด่าแม่กูใช่มั้ย" "ด่าแม่กูเหรอ" แล้วก็รัวหมัดไปเรื่อยๆ ท่ามกลางเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจและหวาดกลัวของคนที่อยู่ตรงนั้น คนอื่นๆ ก็ไม่สามารถเข้าไปห้าม หรือ เข้าไปช่วยเฮียณุได้ เพราะมีชายฉกรรจ์ที่มากับกลุ่มของ ภูมิ หัวลำโพง มาชี้หน้าห้ามเอาไว้ ทำตาขมึงและบอกเลยว่า อย่ามายุ่ง เรื่องราวมันมีที่มาที่ไปอย่างไร? ทำไม "เฮียณุ คนไม่กลัวเมีย" ถึงโดนพวกของ ภูมิ หัวลำโพง เล่นงาน?  เรื่องของเรื่อง มันเป็นแบบนี้ครับ คนที่ต่อย "เฮียณุ คนไม่กลัวเมีย" ที่อ้วนๆ ตัวใหญ่ๆ คนนั้นชื่อ "เอก" มันเคยอยู่กับ "เฮียณุ คนไม่กลัวเมีย&q